รฟท. แจง หลังนำเหล็กปิดกั้นทาง ซอยนันทกาญจน์ กาญจนบุรี

รฟท. แจง หลังนำเหล็กปิดกั้นทาง ซอยนันทกาญจน์ กาญจนบุรี หวังป้องกัน-หลีกเลี่ยงความสูญเสียต่อชีวิต

ตามที่มีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย นำเหล็กมาปิดกั้นทางข้ามรถไฟบริเวณซอยนันทกาญจน์ หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อย่างถาวร ทำให้บ้านกว่า 100 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลานานกว่า 4 ปี

โดยมีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ตัวแทนชาวบ้าน ได้แจ้งว่า การรถไฟฯ นำเหล็กมาปิดกั้นทางข้ามทำให้ซอยนันทกาญจน์ถูกปิดตายทั้งซอย ส่วนตัวได้เข้ามาอยู่อาศัยพร้อมกับเปิดร้านอาหารมานานร่วม 2 ปีแล้ว ได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้อย่างสะดวก เนื่องจากเมื่อปิดกั้นทางข้ามรถไฟที่เชื่อมต่อกับถนนพัฒนากาญจน์เอาไว้

ทำให้ชาวบ้านต้องใช้เส้นทางเบี่ยงที่ค่อนข้างคับแคบ มักเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันบ่อยครั้ง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายในชีวิตและทรัพย์สิน การมายื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้จะขอให้นำเรื่องราวปัญหาความเดือดร้อนทั้งหมดไปติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ลงมาแก้ไขปัญหาบริเวณจุดนี้ให้เร็วที่สุดนั้น

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า การรถไฟฯ ได้มีนโยบายดำเนินการปิดจุดตัดทางลักผ่านที่มักก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและในแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อาทิ กรณีการเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถบัสโดยสาร บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น-สถานีคลองบางพระ จังหวัดฉะเชิงเทรา

Advertisement

เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 44 ราย อุบัติเหตุในบริเวณจุดตัดทางลักผ่านมีเป็นจำนวนมากและบ่อยครั้ง ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อพี่น้องประชาชน การที่มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่มาทำทางเข้าออกเพื่อความสะดวกสบายนั้น หากปล่อยให้มีการใช้ อาจก่อให้เกิดความเสียหายดังเช่นอบัติเหตุต่างๆตามที่กล่าวมา

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตาม โดยเสียสละต่อความสะดวกสบายส่วนตัวเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ

Advertisement

“จุดที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นทางลักผ่าน ซึ่งชาวบ้านทำทางและเปิดใช้กันเอง ซึ่งไม่มีเครื่องกั้นถนน ลักษณะทางกายภาพของจุดตัดมีระยะมองเห็นรถไฟไม่เพียงพอ ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาจุดตัดทางลักผ่านนี้มาโดยตลอด ซึ่งได้มีการประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานเจ้าของถนนที่ตัดกับทางรถไฟทุกจุดทั่วประเทศ สำรวจจุดตัดทางลักผ่าน จุดตัดที่มีระยะมองเห็นไม่ชัดเจนเพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องห้ามใช้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับจุดตัดที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง ทางการรถไฟฯ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบอาณัติสัญญาณ ป้ายเตือน ไฟกระพริบ และดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์กำจัดวัชพืช ต้นไม้ริมทางเพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัยของผู้สัญจรผ่านบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางฯ เพื่อให้มีระยะมองเห็นที่ชัดเจน และยังรวมถึงการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ โดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (Overpass) หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ต่างๆ”

 

นายเอกรัช กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้รณรงค์ส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบจราจรแก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาผ่านจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง โดยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 62 ระบุว่า ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ถ้าปรากฏว่ามีเครื่องหมายหรือสัญญาณระวังรถไฟแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่านหรือมีสิ่งปิดกั้นหรือมีเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน หรือมีเสียงสัญญาณของรถไฟหรือรถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้อาจเกิดอันตราย ขอให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่ารถไฟผ่านไปแล้วและมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image