นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการเร่งรัดการส่งออกของไทยในยุคนิวนอร์มอล ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศยุคนิวนอร์มอล เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าและบริการกลุ่มนิวนอร์มอล อาทิ อาหารแห่งอนาคต เนื้อจากพืช โปรตีนจากแมลง ผลไม้แปรรูปด้วยนวัตกรรม และสินค้ากลุ่ม BCG (Bio Circular Green Economy) ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์สำคัญของโลก และได้รับความนิยมของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้าน
ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพของไทย โดยฮ่องกงเป็นคู่ค้าลำดับที่ 8 ของไทย มีมูลค่าการค้า 2 ฝ่าย รวม 13,298 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสินค้ากลุ่ม New Normal อาทิ อาหารในอนาคต (Future Food) อย่างเนื้อจากพืช (Plant Based Meat) กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก อีกทั้งฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกเนื้อจากพืชเป็นอันดับที่ 1 ของไทย ทั้งนี้ นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์อาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ได้นำผู้ประกอบการประชุมหารือผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ซึ่งได้รับความสนใจในการส่งสินค้าเข้าร่วมและเปิดตลาดในฮ่องกงเป็นจำนวนมาก พร้อมให้ความเห็นว่ากิจกรรมนี้จะเปิดโอกาสสำคัญให้แก่ผู้ประกอบการไทย ในกลุ่มสินค้า Future Food เนื่องจากฮ่องกงเป็นตลาดสำคัญและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ใช้โอกาสในช่วงตรุษจีนปี 2565 เปิดศักราชใหม่นำสินค้า BCG และ Future Food เปิดตัวใหญ่ในฮ่องกง ผ่านการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในวงกว้างต่อกลุ่มผู้บริโภคชาวฮ่องกง นักธุรกิจ ผู้นำเข้า ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหาร ผ่านสื่อครอบคลุมทุกช่องทางในปลายเดือนมกราคม 2565 ทั้งสื่อโทรทัศน์ TVB ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในฮ่องกง ผู้มีอิทธิพลทางความคิด ซึ่งเป็นดารานักแสดงที่มีกลุ่มผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าไทย ทั้งนักแสดงซุปเปอร์สตาร์ พิธีกรชื่อดัง เซเลบริตี้เชฟ เป็นต้น โดยมีผู้ประกอบการ 30 แบรนด์ จัดส่งสินค้าเข้าร่วมกว่า 100 รายการ ทั้งสินค้าที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในฮ่องกง และสินค้าทำตลาดในฮ่องกงแล้ว อาทิ เนื้อจากพืช ทั้ง Ready to Eat และ Ready to Cook ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ และโปรตีนทางเลือกจากแมลง โปรตีนในรูปแบบเส้นจากไข่ขาว อาหารในกลุ่มคีโต รวมทั้งสินค้าไลฟสไตล์ที่ผลิตสินค้าภายใต้แนวคิด BCG เช่น เครื่องประดับ กระเป๋าผ้าไทย และของตกแต่งบ้าน
“สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์ของโลกผลักดันให้ผู้คนเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสของสินค้าไทยสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นและความต้องการซื้อต่อสินค้าในกลุ่ม BCG และ Future Food เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสำนักงานจัดส่งสินค้าตัวอย่างให้แก่ผู้นำเข้าและห้างสรรพสินค้ารายสำคัญในฮ่องกง เพื่อสร้างประสบการณ์การทดลองสินค้าแล้ว ก่อนประสานจัดการเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ซึ่งจะสามารถเปิดช่องทางการส่งออกสินค้าไทยกลุ่ม BCG และ Future Food สู่ตลาดฮ่องกงได้มากขึ้น” นางชณันภัสร์กล่าว
