สธ.พยากรณ์ 5 โรค ปี’65 ไข้เลือดออกพุ่ง ก.ค.สูงถึง 1.3 หมื่นราย ตายแล้ว 1
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการพยากรณ์โรค ประจำปี 2565 มีโรคและภัยสุขภาพที่ประชาชนควรระมัดระวัง 5 โรค
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า โรคภัยไข้เจ็บ ภัยสุขภาพ ยังมีภัยอื่นๆ ที่คุกคามคนไทย โดยในปี 2564 สถานการณ์โรคที่ผ่านมานั้น ยกตัวอย่าง 3 โรคแรก ที่มีความสำคัญในอดีต คือ 1.โรคไข้มาลาเรีย ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขของไทยมานาน 2.โรคเท้าช้าง ไม่พบมานานแล้ว และ 3.โรคเรื้อน แต่ จากการดำเนินการควบคุมโรคมาหลายปี ทำให้อัตราป่วยน้อยลง และระยะหลังไม่พบผู้เสียชีวิต จากเดิมป่วยหลายหมื่นหลายแสนราย เช่น มาลาเรีย ป่วย 2,893 ราย โดย 3 โรคนี้ อยู่ในสถานะที่จะกำจัดให้หมดไปจากประเทศไทย
นพ.โอภาส กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีโรคที่สำคัญมาตลอด คือ ไข้เลือดออกเดงกี บางปีมีผู้ป่วยเป็นแสนคน แต่ปีที่แล้วไข้เลือดออกต่ำมากในรอบหลายสิบปี มีผู้ป่วยรายงานเพียง 9,956 ราย เสียชีวิต 6 ราย ในปี 2564 โรคไข้เลือดออก เป็นอีกปีที่ป่วยต่ำมาก เพราะแทบทุกปีเมื่อไข้เลือดออกระบาดจะมีเด็กเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ไข้เลือดออกดีขึ้น อาจมาจากกิจกรรมออกนอกบ้านลดลง อยู่ในบ้านมากขึ้น ทำให้การกำจัดแหล่งรังโรคมากขึ้น ส่วนโรควัณโรค องค์การอนามัยโลกจัดให้ไทยมีความชุกของวัณโรคสูง แต่ปีที่ผ่านมา ควบคุมสถานการณ์ได้ดี มีป่วย 105,000 ราย เสียชีวิต 1 หมื่นราย ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ไทยพ้นจากปัญหานี้แล้ว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ปี 2564 ป่วย 2,216,551 ราย ซึ่งเมื่อเทียบหลายๆ ประเทศแล้ว สถานการณ์ของไทยดีกว่ามาก แต่ก็ถือว่ารุนแรงอยู่
“ในปี 2564 มีผู้เสียชีวิต 21,637 ราย แต่หลังจากมีความร่วมมือฉีดวัคซีน คิดว่าสถานการณ์ปีนี้จะดีขึ้น ส่วนไข้หวัดใหญ่ แต่ละปีจะมีผู้ป่วยแสนกว่าราย โดยปีที่ผ่านมาถือว่าป่วยต่ำมาก มีรายงานป่วย 10,698 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต ขณะที่อุบัติเหตุจราจร เสียชีวิต 12,376 ราย เด็กจมน้ำ 560 ราย ซึ่งถือว่าอุบัติการณ์ลดลงเช่นกัน” นพ.โอภาส กล่าว
ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพปี 2565 คือ โรคโควิด-19 โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก อุบัติเหตุทางถนน ตกน้ำจมน้ำ และโรคจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM2.5) ดังนี้
1.โรคโควิด-19 หากไม่มีสายพันธุ์อื่นเพิ่มเติม คาดว่าครึ่งปีหลัง จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุจากคนไทยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเป้าหมาย ขณะนี้ฉีดไปได้ประมาณ ร้อยละ 20 หากทำได้จะควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่ได้ แต่ต้องไม่มีการกลายพันธุ์ที่มีนัยสำคัญเพิ่มเติม หากมีการกลายพันธุ์หรือเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นก็จะมีการพยากรณ์โรคขึ้น
2.โรคไข้หวัดใหญ่ ปีนี้คาดว่าจะป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เป็น 22,817 ราย ในช่วงฤดูฝน ปลายฝนต้นหนาว แต่เราพบว่าการสวมหน้ากากอนามัย นอกจากป้องกันโควิด ยังป้องกันไข้หวัดธรรมดา และไข้หวัดใหญ่ ซึ่งต้นปีการสวมหน้ากากอนามัยคนไทยยังดีอยู่ แต่ปลายปี หากสวมหน้ากากอนามัยลดลง การระบาดก็อาจเพิ่มขึ้นได้
3.โรคไข้เลือดออก ในปีนี้จะระบาดเพิ่มขึ้น โดยผู้ป่วยจะมีประมาณ 85,000 ราย ด้วยเหตุผลว่า ปกติไข้เลือดออกจะระบาดปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปี ซึ่งตอนนี้ถึงวงจรต้องระบาดรอบใหม่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของคนไทย 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อน้อย ภูมิคุ้มกันจะน้อย และกิจกรรมทางสังคมจะเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2565 และจะพบป่วยมากที่สุดสุดในเดือนกรกฎาคม จำนวน 13,769 ราย
“ดังนั้น การรณรงค์ไข้เลือดออกต้องเริ่มตั้งแต่บัดนี้ โดยขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกรายแรกของไทยในปี 2565 แล้ว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ โดยระยะหลังพบป่วยที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อย่างรายนี้เป็นผู้หญิงอายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตเพราะมัวแต่ห่วงโควิด-19 เมื่อมีไข้คิดว่า เป็นโควิด-19 ลืมนึกไข้เลือดออก และไปซื้อยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ซึ่งไข้เลือดออกห้ามกินยาแก้ปวด พวกแอสไพริน เอ็นเสด เพราะจะทำให้เลือดออกทางเดินอาหาร เรื่องนี้จึงต้องมาย้ำเตือน และต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่อง” นพ.โอภาส กล่าว
4.ส่วนอุบัติเหตุทางถนน ปี 2564 ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนค่อนข้างน้อย แต่ปี 2565 จะมากขึ้น โดยอยู่ระดับ 1.7 หมื่นราย หรือ 2 หมื่นราย หรือมากกว่านั้น ดังนั้น มาตรการการรณรงค์ การบังคับใช้กฎหมาย การร่วมมือกันปฏิบัติตามวินัยจราจรจะช่วยได้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าผู้เสียชีวิตสูงสุดจะอยู่เดือนมีนาคม และเดือนธันวาคม
5.เด็กจมน้ำ ในปี 2564 พบรายงานเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีน้อยลง จากเดิมปีละ 1 พันกว่าราย แต่ปีที่ผ่านมา 500 กว่าราย เหตุผลเพราะเมื่อมีโควิด-19 เด็กอยู่บ้านมากขึ้น ไม่มีการชวนไปเล่นน้ำ ทำให้ตัวเลขตกน้ำ จมน้ำลดลง อย่างไรก็ตาม ปี 2565 โรงเรียนจะเปิดออนไซต์มากขึ้น มีกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีเด็กตกน้ำ จมน้ำมากขึ้น จึงต้องแจ้งเตือนเรื่องนี้
