พิธาเปิดตัวว่าที่ 6 ส.ส.ปทุมฯ ลั่นแก้ปัญหาปากท้องให้ ปชช. ชูผันสามโคกเป็นเมืองท่องเที่ยวเหมือนอยุธยา

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. ที่วัดหงษ์ปทุมาวาส (วัดมอญ) จังหวัดปทุมธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 6 คน ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาของประชาชน ที่ได้ผลกระทบน้ำท่วมซ้ำซาก

จากนั้น 10.00 น. เดินทางไปตลาดอิงน้ำสามโคก พบปะพูดคุยพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน เรื่องปัญหาปากท้อง และน้ำท่วม ซึ่งนายพิธาพูดคุยกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง มีประชาชนให้ความสนใจออกมาต้อนรับเป็นจำนวนมาก

นายพิธาให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานีว่า วันนี้มาลงพื้นที่ที่ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี มากับผู้สมัครทั้ง 6 เขต ได้ทำงานมาก่อนหน้านี้เยอะมาก มีนายเจษฎา ถาวรธรรมฤทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1, นายสกล สุนทรวาณิชย์กิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2, นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3, นายเชตะวัน เตือประโคน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4, นายประสิทธิ ปัทมผดุงศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5, นายพิชัย ปิยะกาโส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 นั้นได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี มั่นใจว่ามีอุดมการณ์หนักแน่น ไม่มีงูเห่าแน่นอน และตั้งใจจะมาทวงแชมป์คืนจากในอดีตพรรคอนาคตใหม่เขต 3 ก็เป็นของเรา แต่ว่ากลายพรรคไป เราต้องการที่จะทำให้พี่น้องปทุมธานีมั่นใจในว่าที่ผู้สมัครทั้ง 6 คน

รวมทั้งเขต 3 ขอให้ เลือก น.ส.ชลธิชา ที่เป็นนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยมาพร้อมกับนายรังสิมันต์ โรม ตั้งแต่ปี 2556 ก็มั่นใจเรียกคืนความมั่นใจจากชาวปทุมธานี ที่รักในนิติธรรม นิติรัฐ รักในประชาธิปไตยได้อย่างแน่นอน มากไปกว่านั่นตั้งแต่เขต 1-6 เป็นว่าที่ผู้สมัครที่มีความหลากหลาย มีนักธุรกิจ มีวิศวะ ที่เคยทำงานอยู่ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น และก็เคยอยู่ในเมืองที่เป็นปริมณฑล ที่อยู่ในโอซากาเหมือนก็จะเห็นเปรียบเทียบได้ว่า เมื่อปทุมธานีเทียบกับ กทม. มีเรื่องคมนาคม เรื่องเกี่ยวกับการวางผังเมืองอย่างไรก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ มีผู้สมัครที่เคยทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีที่สุดมาแล้ว มาทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้แทนบ้าง และยังมีทั้งทนายและนักธุรกิจ

Advertisement

ฉะนั้นเพื่อที่จะตอบโจทย์ของปทุมธานี เราเห็นศักยภาพ ความท้าทายของปทุมธานี คือเรื่องของการท่องเที่ยว จ.ปทุมธานี มีแม่น้ำตัดผ่าน ใกล้ๆ กับ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ว่าถ้าเทียบดูรายได้ของ จ.พระนครศรีอยุธยา มากกว่า 10-20 เท่าได้ จ.ปทุมธานี รายได้ของการท่องเที่ยวมีถึงหลักพันล้าน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่หลัก 10 หายไป 85 เปอร์เซ็นต์

เมื่อสักครู่ระหว่างเดินพูดคุยกับประชาชน ก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพอดี ก็ได้พูดคุยกัน ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจังหวัดปทุมธานีมีจุดแข็งเหมือนกับกรุงเทพฯ มีแม่น้ำเหมือนกับ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถจะทำได้ แต่ความท้าทายก็คือว่ามีแม่น้ำไหลตัดผ่านจังหวัด ก็จะมีปัญหาน้ำ

ผมเป็นผู้แทนที่อยู่ในสภา และเป็นกรรมาธิการงบประมาณหลายจังหวัด ปรากฏว่าจังหวัดที่มีปัญหาน้ำท่วมอย่างจังหวัดปทุมธานี ไม่มีเครื่องเตือนภัยเรื่องน้ำท่วม อันนี้เป็นความท้าทายอาจเกิดจากรัฐราชการก็ดี ความไม่ใส่ใจของคนที่ทำงานในพื้นที่ปทุมธานีมาก็ดี แล้วก็ปล่อยให้น้ำท่วมซ้ำซาก

Advertisement

ความท้าทายที่ 2 ก็คือ สังคมคนสูงวัย เมื่อสักครู่ได้มาจากวัดหงส์ เห็นว่ามันยังมีความเดือดร้อนของชาวปทุมธานี ที่มันเกินกว่าจะทนได้ เกี่ยวกับวิกฤตโควิด วิกฤตน้ำท่วม และก็วิกฤตเศรษฐกิจ เป็นไตรวิกฤต ที่ถาโถมประชาชน ในช่วงที่เราต้องเจอสังคมสูงวัย และสู้กับเรื่องบำนาญให้สูงกว่านี้ มันก็ยังมีประชาชนที่ยังรอผมอยู่ หวังว่า ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 6 คน ที่เราคัดสรรมาอย่างดีในฐานะที่จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ เป็นจังหวัดปริมณฑลที่มีรอยต่อที่จะต้องแก้ไขจากจังหวัดกรุงเทพมหานคร นครนายก และพระนครศรีอยุธยา ก็หวังว่าพรรคก้าวไกลก็จะพยายามที่จะเพิ่ม ส.ส.ปทุมธานีให้ได้ยกจังหวัด เพราะว่าที่ผ่านมาเป็นอันดับสองหมดเลย ห่างแค่ 1,000 คะแนนบ้าง ห่างแค่ 5,000 คะแนนบ้าง เป็นเขตยุทธศาสตร์ที่ต้องการแก้ปัญหา เป็นยุทธศาสตร์พรรคด้วย ยุทธศาสตร์บริหารภาคกลางด้วย และก็ยุทธศาสตร์ระดับชาติ อย่างปัญหาขยะ  pm2.5 การท่องเที่ยวด้วย ก็เป็นจังหวัดที่ก้าวไกลต้องการปักธงให้ได้ และก็ขอเรียกร้องความมั่นใจคืนจากพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยว่า พรรคก้าวไกลยังยืนหยัดที่จะต่อสู้ แล้วก็เลือกตั้งไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่เป็นการเลือกตั้งที่จะเปลี่ยนประเทศให้ได้ นี่คือความตั้งใจของพวกเรา

เมื่อถามว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลสั่นคลอนมากมองอย่างไรบ้าง

อันนี้ต้องเรียกว่าดาบนั้นคืนสนอง เพราะว่าความที่มีความพิกลพิการของรัฐธรรมนูญ 60 ที่ทำให้มีบันไดในการสืบทอดอำนาจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์เมื่อปี 2562 ทำให้เกิดความสั่นคลอนในสภาได้เหมือนกัน ครม. ก็มีปัญหาเรื่องความไม่ลงรอยกันของพรรคร่วมรัฐบาลอีก ผมในฐานะผู้นำฝ่ายค้านอันดับสอง ก็ต้องใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสของพี่น้องประชาชนในการที่จะผ่านกฎหมายสำคัญๆ ก็เป็นโอกาสนี้ที่เป็นการเช็กองค์ประชุมบ้าง อะไรบ้าง แต่เช็กองค์ประชุมมันก็ได้แต่เทคนิคอย่างเดียว แต่ถ้าจะเอาทั้งเทคนิคแล้วก็เนื้อหา พรรคฝ่ายค้านต้องร่วมมือกันในการคว่ำกฎหมาย อย่างเช่น สุราก้าวหน้า ที่จะทำให้สิทธิในการทำมาหากินเป็นของพี่น้องประชาชนทุกคนแพ้ไปแค่ 10 กว่าเสียง เป็นต้น ก็พยายามที่จะให้กลไกในการตรวจสอบรัฐบาล ในการตรวจสอบรัฐสภา มีความหลากหลายมากขึ้น และก็ทำให้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการอธิบายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ ก็จะใช้โอกาสนี้ในการซักถามและแนะนำรัฐบาลในปัญหาวิกฤตที่มีอยู่

แต่บางเรื่องบางอย่างที่จับได้คาหนังคาเขา แล้วข้าราชการชั้นสูงส่งมาให้ก็อาจจะไม่ใช้ในเวทีนี้ แต่จะมีการเก็บไว้ ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แทน แต่จะมีการโหมโรงแล้วก็เปิดประเด็นนั้น เพื่อให้อาวุธที่ใช้ในการตรวจสอบกลไกของรัฐบาลและประโยชน์ของพี่น้องประชาชน มันอยู่ในเวทีที่มันล้มได้จริงๆ ซึ่งในช่วงนั้น ตนว่าเดือน เม.ย.และ พ.ค. ก็เป็นช่วงแดนประหารของรัฐบาล ความสั่นคลอนอะไรก็จะเห็นได้ชัด มากกว่านั้นเข้าไปถึงเดือนสิงหาคมก็จะเป็นช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องตัดสินว่า 8 ปีหรือเปล่า ไตรมาสที่ 2 ที่ 3 เป็นช่วง killing zone ขึ้นแท่นประหารเราก็จะดูจังหวะการเมือง แล้วก็เอาประโยชน์การเมืองของประชาชนเป็นที่ตั้ง การใช้สภาให้เป็นประโยชน์สมกับที่ประชาชนเลือกเรามา

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการยุบสภา

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ตลอด วิเคราะห์อย่างปกติมันไม่ค่อยได้ เพราะว่ารัฐบาลมาด้วยการเข้าสู่อำนาจแบบไม่เหมือนกับปกติ แต่เป็นรัฐบาลเก่าๆ แบบสมัยก่อน ที่มาแบบประชาธิปไตยเต็มใบป่านนี้ยุบไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เนื่องจากมีกลไกพิเศษหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ส.ว. 250 คน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระต่างๆ ที่เขาสามารถควบคุมได้อยู่ ก็จะพยายามที่จะยื้อไปได้หมด สรุปแล้วก็คือ ตอนนี้สามารถรักษาอำนาจได้ แต่บริหารไม่ได้ รักษาอำนาจให้ตัวเองอยู่ต่อได้ แต่ว่ามันบริหารแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนไม่ได้ ไม่ว่าจะมองในมิติไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งบประมาณ ก็คงจะต้องเป็นจังหวะที่เราจะต้องพยายามทำหน้าที่แทน แล้วก็ทำให้รัฐบาลกลับมาจัดการได้ ยกตัวอย่าง วัคซีนที่แทงม้าตัวเดียว ไอโอกองทัพ ตั๋วช้างในตำรวจ ทุกครั้งเราก็พยายามแค่ไม่ต้องการทำงานแค่ในสภา แต่สื่อสารให้พี่น้องประชาชนให้เห็นถึงแนวทางและก็ยังมีความหวังอยู่ว่ามันพอที่จะเปลี่ยนแปลงได้อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ให้ครบวาระ

หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุว่า เขาก็คงต้องพยายามทำอย่างนั้น แต่ถามว่าจะทำได้หรือไม่ เกมการเมืองมันมองแค่อย่างเดียวไม่ได้ พอแตกออกมาเป็นพรรคใหม่มีอยู่ 20 เสียง ทางฝั่งนู้นถ้าเราคิดแบบเขาได้ ก็คงต้องหาวิธีที่จะต้องมาซื้อ ส.ส.ฝ่ายค้าน คืนไปให้ได้ 20 ดังนั้นก็คือทุกอย่างมันจะต้องมีการแก้เกม แต่ว่าในขณะเดียวกันเราต้องถามตลอดเวลาว่า ในสมการเหล่านั้น พี่น้องประชาชนอยู่ไหน ป้าบ้านเลขที่ 2/1 ตอนนี้ที่ไม่มีอะไรจะกินแล้วคุณแม่ก็พิการ แล้วสาธารณสุขที่ต้องมาคอยดูแลเช็กอุจจาระ ปัสสาวะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน พรรคเราก็จะพยายามที่จะทำให้ได้ นอกจากค้านแล้ว ก็ต้องหาทางออกให้กับประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุน้ำมันรั่ว ไม่ว่าจะเป็นที่จะทำให้การรักษาของโรคโควิดไม่สามารถจะเบิกกับโรงพยาบาลเอกชนได้ ในขณะนี้ผู้ติดเชื้อรวมทั้งประเทศถ้ารวมผลเอทีเคอยู่หลัก 2 หมื่นเศษ

ด้าน น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 กล่าวว่า ตนยังมีอีกหลายคดี ทุกคดีจะเกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพ ในการลุกขึ้นมาต่อต้านในการทำรัฐประหาร อย่างไรก็ตามทุกคดียังไม่มีการตัดสินว่าเราเป็นผู้กระทำผิด และยังอยู่ชั้นสืบพยาน และมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีการตัดสิทธิในการลงรับสมัครเป็น ส.ส.แน่นอน

ส่วนจะมีผลในการดำรงตำแหน่งในอนาคตหรือไม่ ตรงนี้ตนมองว่าเรื่องสำคัญในการที่เราเองต้องตั้งคำถามในขบวนการยุติธรรมและผู้มีอำนาจ ตัวเองไม่สามารถไปควบคุมในคำตัดสินตรงนั้นได้ อย่างไรก็ตามหลายๆคดีที่อยู่ในชั้นศาลวันนี้ คดีคนอยากเลือกตั้ง คดีตั้งแต่ต่อต้านการชุมนุมรัฐประหารเมื่อปี 2558 ยังอยู่ในชั้นศาล เรามีพยานหลักฐานหลายอย่างมีพยานบุคคลที่พร้อมเข้ามาพิสูจน์ในชั้นศาลว่าการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของพวกเรา ตั้งแต่รัฐประหารจนถึงวันนี้ แม้ในการเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน ในเรื่องนี้ตนเองไม่กังวล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image