เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ร้องเรียนผ่านสื่อดัง เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ โดยใช้ชื่อว่า “พิน” อายุ 49 ปี บ้านอยู่เขตห้วยขวาง ได้ว่าจ้างผู้ช่วยพยาบาลชื่อ จ๋า จากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ มาดูแลคุณแม่วัย 84 ปี ซึ่งมีโรคประจำตัว ทั้งความดัน หัวใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง แต่ผู้ช่วยพยาบาลรายนี้ติดโควิดแล้วมาดูแลคุณแม่
เมื่อ “พิน” มาดูกล้องวงจรปิดในบ้าน พบผู้ช่วยพยาบาลรายดังกล่าวมีอาการไอ แต่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และเข้าไปไอในห้องน้ำของแม่วัย 84 ปีด้วย ซึ่งนายจ้างยืนยันว่าก่อนเข้างานได้ให้ผู้ช่วยพยาบาลรายดังกล่าวตรวจ ATK ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ช่วยพยาบาลรายดังกล่าวทำการตรวจหรือไม่ แต่ก็บอกว่าผลตรวจเป็นลบ
โดยพินระบุว่า คุณแม่ป่วยเดินไม่ได้ อยู่กับลูกจ้างผู้หญิงวัย 20 ปีอีกคน ซึ่งพินกับครอบครัวอยู่บ้านคนละหลังกับแม่ เมื่อติดต่อศูนย์ผู้สูงอายุจ้างผู้ช่วยพยาบาลมาดูแล ทางศูนย์ก็สลับสับเปลี่ยนคนมาช่วยดูแล ปรากฏว่า จ๋ามาทำงานที่บ้านเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เมื่อมาดูกล้องวงจรปิดที่บ้านพบว่าจ๋าไอ ไม่สวมหน้ากาก จึงเดินไปที่บ้านคุณแม่ และถามจ๋า ว่าไม่สบายหรือ ซึ่งทางจ๋าระบุว่า แค่คันคอ แต่พินตัดสินใจจ่ายเงิน และให้จ๋ากลับบ้านไปทันที
พินกล่าวต่อว่า 2 วันต่อมา แม่ไอ ไม่มีไข้ คิดว่าเป็นหวัด จึงเอายาให้กิน แต่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คุณแม่เสียงแหบ เมื่อตรวจ ATK พบว่าแม่ติดโควิด จึงประสานรถพยาบาลมารักษาตัว ขณะนี้คุณแม่วัย 84 ปี อยู่ห้องไอซียูแล้ว 5 วัน อาการยังทรงๆ อยู่ และทำการกักตัวทุกคนที่เสี่ยงสูง
และต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุโทรมาแจ้งว่าผู้ป่วยติดเตียงอีกรายที่ผู้ช่วยพยาบาลชื่อจ๋า เข้าไปดูแล ก็ติดโควิดเช่นกัน
ทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงสงสัยจ๋าว่าจ๋าติดโควิด และสอบถามจ๋าให้ตรวจ ATK ซึ่งทางจ๋าอ้างว่าผลตรวจเป็นลบ แต่ทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุให้จ๋าไปโรงพยาบาล ซึ่งตอนแรกจ๋าไม่ยอมไป อ้างว่าไม่มีเงิน ทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงบังคับว่าต้องไปตรวจ แต่ทางจ๋าหายตัวไป
ต่อมาทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงโทรไปหาโรงพยาบาลที่จ๋าถูกบังคับไปตรวจ ปรากฏว่าผลตรวจจ๋าเป็นบวก
ขอบคุณ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์
