ส่งออกภาคใต้เฟื่องฟู โต 34.7% สูงกว่าภาพรวมประเทศ พณ. กางสินค้าทำเงิน

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 - 14:54 น.

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ติดตามข้อมูลการส่งออกสินค้ารายภูมิภาคของไทย พบว่าปี 2564 มูลค่าการส่งออกของภาคใต้ เติบโตสูงถึง 34.7% สูงกว่าอัตราการเติบโตของการส่งออกของประเทศโดยรวม ที่ปี 2564 การส่งออกรวมมีมูลค่า 271,174 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 17.1% โดยการส่งออกของภาคใต้มีมูลค่า 11,817 ล้านเหรียญสหรัฐ รองจากกรุงเทพ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่มีมูลค่า 94,955 78,780 70,016 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ

ดูในรายละเอียดการส่งออกของภาคใต้ มีมูลค่ารวม 11,817 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วน 4.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งประเทศ จังหวัดที่มีการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง ภูเก็ต และชุมพร สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของภาคใต้ 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.ถุงมือยาง 2,192 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.ยางทีเอสเอ็นอาร์ 1,725 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 1,383 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.น้ำยางข้น 1,253 ล้านเหรียญสหรัฐ 5.ไม้แปรรูป 853 ล้านเหรียญสหรัฐ 6.น้ำมันปาล์ม 824 ล้านเหรียญสหรัฐ 7.ยางแผ่นรมควันชั้นที่ 3 มูลค่า 612 ล้านเหรียญสหรัฐ 8. ทูน่ากระป๋อง 271 ล้านเหรียญสหรัฐ 9.ทุเรียนสด 263 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 10. ไม้อัด 223 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ตลาดส่งออกสำคัญของภาคใต้ ได้แก่ จีน สัดส่วน 34.9 % สหรัฐ สัดส่วน 13.4 % มาเลเซีย สัดส่วน12.4 % อินเดีย สัดส่วน 6.4% และญี่ปุ่น สัดส่วน 5.9 %

แยกเป็นรายจังหวัด พบว่า สงขลา มีมูลค่าการส่งออก 7,547 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 29.6 % โดยมูลค่าการส่งออกเกือบ 80 % เป็นการส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราและผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ถุงมือยาง 2,010 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 42.6 % ยางทีเอสเอ็นอาร์ 1,488 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 72.3 % ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 3% น้ำยางข้น 930 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 17 % และยางแผ่นรมควัน ชั้นที่ 3 มูลค่า 376 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 73.1 %
สุราษฎร์ธานี มีมูลค่าการส่งออก 1,452 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตสูงถึง 108.2 % โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญอันดับหนึ่ง คือ น้ำมันปาล์ม ส่งออกเป็นมูลค่า 608 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 426.6% และมีสัดส่วนประมาณ 41.9% ของมูลค่าการส่งออกของทั้งจังหวัด สินค้าส่งออกสำคัญรองลงมา ได้แก่ ไม้แปรรูป มูลค่า 242 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 12.9% น้ำยางข้น มูลค่า 88 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 146.6% และถุงมือยาง มูลค่า 81 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 163.7%
ตรัง มีมูลค่าการส่งออก 495 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 11.4% โดยมีไม้แปรรูป เป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของจังหวัดตรัง มีมูลค่า 239 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 11.4% และมีสัดส่วน 48.2% ของมูลค่าการส่งออกของทั้งจังหวัด
ภูเก็ต มีมูลค่าการส่งออก 480 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 23.4% โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราและผลิตภัณฑ์ อาทิ ยางทีเอสเอ็นอาร์ ถุงมือยาง ยางแท่ง
น้ำยางข้น และยางแผ่นรมควันชั้นที่ 3 ขณะที่
ชุมพร มีมูลค่าการส่งออก 447 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 29.2% โดยเป็นการส่งออกทุเรียนสด และแช่แข็ง รวมมูลค่า 284 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นทุเรียนสด และแช่แข็ง
234 และ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ มีสัดส่วนถึง 63.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของจังหวัดชุมพร

ในแง่กลุ่มสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าส่งออกหลักของภาคใต้ มีสัดส่วนประมาณ 60% ของมูลค่าการส่งออกรวมของภาคใต้ ภาคใต้มีสินค้าศักยภาพอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีแนวโน้มขยายตัวดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตรหรือสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ผลไม้สด โดยปี 2564 การส่งออกของไทย มีการขยายตัว 115% และ 83.5% ในตลาดมาเลเซีย และจีน อาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัว 47.12% และ 30.3% ในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ อาหารสุนัขและแมว ขยายตัว 76.6% 72.2% และ 38.4% ในตลาดอินเดีย แคนาดา และมาเลเซีย ไม้แปรรูป ขยายตัว 61.8% ในตลาดมาเลเซีย ไม้อัด ขยายตัว 92.3% 45.4% และ 18.6% ในตลาดสหรัฐ มาเลเซีย และจีน ไฟเบอร์บอร์ด ขยายตัว 145.3% และ 69.6% ในตลาดคูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งการส่งออกของภาคใต้สามารถส่งเสริมให้มีการกระจายสินค้าส่งออกที่หลากหลาย และขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น