ฌอน เพนน์ ออกจอ “ซีเอ็นเอ็น” สภาพอิดโรย เล่าชะตากรรมชาวยูเครนที่เหลือแต่ตัว !!!
เว็บยาฮูรายงานว่า หลังจาก ฌอน เพนน์ พระเอกดังฮอลลีวูดวัย 61 ปี ได้แชร์รูปถ่ายของตัวเองบนทวิตเตอร์ว่าต้องทิ้งรถและเดินเท้าเป็นระยะทางหลายไมล์ไปยังชายแดนโปแลนด์ เพื่อความปลอดภัย
ล่าสุด พระเอกรุ่นใหญ่ ซึ่งไปถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม วิงวอนขอความช่วยเหลือแก่ชาวยูเครนที่ต่างบ้านแตก และหมดเนื้อ หมดตัว
เพนน์ในสภาพอิดโรย อ่อนล้า ให้สัมภาษณ์ แอนเดอร์สัน คูเปอร์ ในรายการ “Anderson Cooper 360” ว่าองค์กรไม่หวังผลกำไร Community Organized Relief Effort (CORE) ของเขา กำลังทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวยูเครน ขณะที่รัสเซียยังโจมตีอย่างต่อเนื่อง
“เราได้แจกจ่ายข้าวของเกี่ยวกับสุขอนามัย แจกเงิน แจกน้ำดื่มแก่ผู้ลี้ภัยเมื่อพวกเขาผ่านมา และตอนนี้เรากำลังจะนำเจ้าหน้าที่ของเราเข้าไปในพื้นที่ด้วย เพราะมีผู้ลี้ภัยอยู่ 2 ประเภท หนึ่งคือคนที่พยายามหนีออกนอกประเทศ กับอีกประเภทหนึ่งคือ ยังอยู่และคิดว่าต้องทำยังไง ”
พระเอกเจ้าบทบาทรางวัลออสการ์เล่าว่า ผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่จาก CORE ได้เจอ ล้วนสูญเสียทุกอย่าง หมดเนื้อ หมดตัว “คนส่วนมาก มีงานการที่ดีทำ แต่พวกเขาต้องทิ้งงานและบัญชีธนาคารไว้เบื้องหลัง นี่คือความจริงตรงหน้าของพวกเขา เราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับ CORE พวกเราไม่เก่งเรื่องออกสื่อกันเลย มันอาจจะฟังดูน่าขำ และผมเองก็น่าจะเป็นคนที่ต้องออกมาช่วยในเรื่องหาเงินช่วยเหลือที่ CORE จำเป็นต้องนำไปช่วยเหลือผู้คน และผมขอวิงวอนให้ผู้คนช่วยเรากันด้วย”
ทั้งนี้ เพนน์ได้เชิญชวนผู้ชมรายการ “Anderson Cooper 360” ช่วยกันบริจาคเงินเท่าที่ทำได้ โดยสามารถบริจาคผ่านเว็บไซต์ CORE’s website
พระเอกจาก “Mystic River” ได้เดินทางไปถ่ายทำหนังสารคดีเกี่ยวกับรัสเซียรุกรานยูเครนให้แก่ไวซ์ สตูดิโอ และได้เล่าให้ แอนเดอร์สัน คูเปอร์ ฟังถึงความประทับใจ หลังจากได้พบกับ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ว่า “ผมได้พบกับประธานาธิบดีเซเลนสกีในวันก่อนหน้าที่รัสเซียจะบุกโจมตี และอีกครั้งในวันที่รัสเซียโจมตี ผมไม่รู้เขาจะรู้หรือไม่ว่าเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่มันชัดเจนมากสำหรับผม ที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับโลกสมัยใหม่ในนิยามของความกล้าหาญ ศักดิ์ศรี และความรัก นี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่ผมรู้สึกประทับใจในตัวเขา แต่ก็รู้สึกหวาดกลัวแทนเขาและยูเครน”
