ASW เคาะจ่ายปันผลปี 64 อีก 0.40 บาทต่อหุ้น พร้อมแจกวอร์แรนต์ ขอผู้ถือหุ้นเพิ่มทุนอีก 506 ล้าน ลุย 7 โครงการ ดันรายได้โต 19%

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ได้มุ่งขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการเป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน ซึ่งความสำเร็จจากผลการดำเนินงานในปี 2564 สามารถเอาชนะความท้าทายจากปัจจัยลบโควิด-19 ทำรายได้รวม 5,034 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% และ 9% จากปีก่อนตามลำดับ

ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 20 เมษายนนี้ อนุมัติจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในอัตรารวมหุ้นละ 0.54706 บาท โดยมีการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 ไปแล้ว คิดเป็น 0.14706 บาทต่อหุ้นในรูปแบบของหุ้นปันผลและเงินสด คงเหลือจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2564 เป็นเงินสดอีกจำนวน 0.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 พฤษภาคม

นอกจากนี้ บอร์ดบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอแรนท์ ครั้งที่ 1 (ASW-W1) จำนวนไม่เกิน 285,373,707 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตรา 3 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยมีอายุ 2 ปีนับจากวันที่ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่กำหนดอัตราใช้สิทธิตามใบแสดงสิทธิ ASW-W1 ในอัตรา 1 หน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคาใช้สิทธิ 12 บาทต่อหุ้น

รวมถึง จะขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ อีกจำนวน 506,985,818.00 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 856,121,119.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,363,106,937.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 506,985,818 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท รองรับการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปให้แก่บุคคลในวงจำกัดจำนวน 85,612,111 หุ้น การออกและเสนอขาย ASW-W1 จำนวน 285,373,707 หุ้น เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ลงทุนในโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันจำนวน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช, แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี และดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา เป็นต้น รวมถึงพัฒนาโครงการใหม่อีก 7 โครงการทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 12,400 ล้านบาท โดยในปี 2565 วางเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) 10,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ (รายได้รวม) 6,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 19% พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image