หนุ่มวัย 33 ปี ผูกคอตายในตู้คอนเทนเนอร์ หลังรู้ว่าเมียมีชู้ไม่ให้กลับบ้าน
วันที่ 18 มีนาคม ร.ต.อ.ขวัญชัย พันละบาล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนผูกคอตายในตู้คอนเทนเนอร์ อยู่ที่แคมป์คนงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง หมู่ 7 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ผูกคอตายด้วยเข็มขัดสีดำ ห้อยอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างฯจึงได้ทำการตรวจ ATK ก่อนที่จะนำศพลงมา ใช้มีดตัดเข็มขัดที่รัดคอออก และนำตัวลงมานอนที่พื้น ผู้ตายสวมเสื้อคอปกแขนยาวสีน้ำเงินดำ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน ทราบชื่อ นายชาติไทย ไชยแล อายุ 33 ปี แพทย์ได้ชันสูตรพลิกศพ พบมีรอยช้ำที่ลำคอและลิ้นจุกปาก มีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศ เนื่องจากมีมดกัด คาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ตรวจรอบๆ ที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ใดๆ ทั้งสิ้น แพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าผู้ตายเป็นคน จ.อุตรดิตถ์ มาทำงานเป็นพนักงานขับรถเทรลเลอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ที่แคมป์คนงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง อยู่มาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ส่งเงินให้เมียทุกเดือนไม่เคยขาด เมื่อคืนของวันที่ 16 มี.ค.65 ผู้ตายได้โทรศัพท์คุยกับเมีย และเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันในโทรศัพท์ ผู้ตายจึงขอกลับบ้าน แต่เมียบอกว่าไม่ต้องกลับมาให้อยู่ที่นั่นแหละ เพราะตอนนี้มีแฟนใหม่แล้ว ทำให้ผู้ตายโกรธและโมโห ได้เตะกะละมังแตกไป 2 ใบ จนเพื่อนร่วมงานมาปลอบใจ และนั่งกินข้าวด้วยกัน ได้สงบสติอารมณ์สักพักหนึ่ง และได้แยกย้ายกันเข้านอน จากนั้นมาก็ไม่เห็นผู้ตายออกจากห้องเลย จนถึงเวลา 16.00 น. ได้มีคนงานหญิงเดินผ่านห้อง ได้ตะโกนถามว่า ไม่ออกมากินข้าวเหรอ เห็นประตูแง้มอยู่ จึงได้เปิดไปดู ตกใจหงายหลัง พบผู้ตายผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบแจ้งหัวหน้าคนงาน และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุดังกล่าว
ทางด้าน นายลอง ไหมคง อายุ 50 ปี (เพื่อนร่วมงาน) เล่าว่า ผู้ตายเล่าให้ตนฟังว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ จ.อุตรดิตถ์ แต่แฟนเขาบอกว่าไม่ต้องกลับมาแล้ว เพราะมีคนใหม่แล้ว จึงได้เกิดความโมโหและเครียด เขาก็เลยเตะกะละมังแตกไป 2 ใบ ตนก็บอกว่า ไปทำทำไม ของพวกนี้มันไม่เกี่ยวกับเมียเอ็ง และตนก็ไม่กล้าถามอะไรมาก เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ผู้ตายได้นั่งกินข้าวกับพวกตนตามปกติ ไม่มีอาการเมาเพราะไม่ได้กินเหล้า แต่เขาน่าจะมีเรื่องเครียด ส่วนเรื่องฆ่าตัวตาย ตนเองไม่รู้เรื่องเลย เพราะตนนอนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ได้ลุกมาเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่ได้เรียกน้องเขา ผู้ตายได้บอกอีกว่า เดี๋ยวผมกลับไปก่อนพี่ เดี๋ยวจะจัดการให้หมด ลักษณะเหมือนจะฆ่าให้หมด ตนจึงได้บอกว่า มันเป็นเวรกรรมอย่าไปทำเขาเลย ถ้าเขาได้ดีก็ปล่อยเขาไป แต่ตนคิดว่าจริงๆ แล้วเขาก็คงไม่ทำหรอก
