เมื่อก่อน “มิลา คูนิส” ชอบบอกเป็นคนรัสเซีย แต่ตอนนี้ภูมิใจบอก เธอคือคนยูเครน
ก่อนเกิดเหตุการณ์รัสเซียบุกโจมตียูเครน ” มิลา คูนิส ” นักแสดงฮอลลีวูด ซึ่งเกิดในยูเครน กระทั่งอายุ 8 ขวบ ครอบครัวจึงพากันอพยพมาปักหลักใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา เคยบอกใครต่อใครเสมอว่าเธอเป็น “คนรัสเซีย” แต่ตอนนี้ นักแสดงแม่ลูกสอง ภรรยาคนสวยของ แอชตัน คุชเชอร์ พระเอกฮอลลีวูด บอกว่า “ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ” หลังประเทศบ้านเกิดของเธอกำลังร้อนเป็นไฟ จากภัยสงคราม
คูนิส บอกไม่เคยรู้สึก”ภูมิใจ”ในสายเลือดยูเครนของเธอเท่าวันนี้ ทั้งยังพร่ำบอก ไวแอต ลูกสาววัย 7 ขวบ และ ดิมิทรี ลูกชายวัย 5 ขวบด้วยว่า พวกเขามีสายเลือดอเมริกันครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคือสายเลือดยูเครน
นักแสดง ซึ่งเคยฝากผลงานใน Forgetting Sarah Marshall และ Black Swan ให้สัมภาษณ์ มาเรีย ชไรเวอร์ ว่า “ฉันกิดที่ยูเครน ฉันย้ายมาอยู่ที่อเมริกาตอนปี 1991 ครอบครัวฉันเป็นครอบครัวสุดท้ายในตระกูลที่อพยพออกมา ”
เพราะมาอยู่ที่สหรัอเมริกาตั้งแต่ยังเด็ก คูนิสจึงคิดเสมอว่าเธอเป็นคนอเมริกัน “ฉันรู้สึกมาตลอดว่าฉันเป็นคนอเมริกัน แต่ผู้คนที่เจอฉัน มักจะพูดว่า คุณเหมือนคนยุโรปตะวันออกมาก แต่ฉันก็จะบอกกลับไปว่า ฉันเป็นคนแอลเอ เพราะฉันรู้สึกอย่างนั้นมาตลอดชีวิต”
แต่ทันทีที่เกิดเหตุการณ์รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ คูนิสบอกว่า มันทำให้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไป และรู้สึกรักสายเลือดยูเครนในตัวของเธอจับใจ “ฉันก็อธิบายไม่ถูก แต่จู่ๆฉันก็สึกเหมือนหัวใจของฉันถูกฉีกออก มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก ”
ความรู้สึกดังกล่าว ยังทำให้คูนิสเริ่มจะพูดให้ลูกๆรู้ด้วยว่า ครึ่งหนึ่งในตัวของพวกเขามีสายเลือดของชาวยูเครนอยู่ “ฉันบอกกับลูกว่า ครึ่งหนึ่งของเธอเป็นยูเครน และอีกครึ่งหนึ่งเป็นอเมริกัน ที่ผ่านมาการที่ฉันมาจากยูเครนไม่เคยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันเลย และส่วนมากฉันมักบอกใครต่อใครว่าฉันเป็นคนรัสเซียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้นก็คือ ตอนฉันมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาใหม่ๆ เมื่อมีใครถามฉันว่ามาจากไหน ฉันจะบอกว่า มาจากยูเครน ฉันก็จะได้ยินคำถามกลับมาว่า ยูเครนอยู่ที่ไหน? ฉันก็ต้องอธิบาย และชี้ให้ดูว่ายูเครนอยู่ตรงไหนในแผนที่ แต่ถ้าฉันบอกว่า มาจากรัสเซีย ผู้คนก็จะร้องอ๋อ เพราะรู้จัก ฉันจึงคิดว่า มันน่าจะง่ายกว่า แค่ฉันบอกไปว่ามาจากรัสเซีย ”
แต่วันนี้ นักแสดงคนสวยบอกว่า ” ฉันจะบอกว่า ฉันมาจากยูเครน ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว มันคือความรู้สึกภาคภูมิใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า มันทำให้ความรักที่ฉันมีต่อประเทศที่ฉันกำลังใช้ชีวิตอยู่หายไป และสิ่งที่ประเทศนี้มอบให้แก่ฉัน ”
คูนิส ยังอธิบายด้วยว่า ” เราไม่จำเป็นต้องมองคนรัสเซียเป็นศัตรู สิ่งที่ฉันต้องการเน้นย้ำมากๆก็คือ ฉันคิดว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ถูกพูดถึงในสื่อ ตอนนี้ในสื่อมีแต่ข้อความทำนองว่า ถ้าคุณไม่อยู่ข้างเดียวกับเรา คุณก็กำลังทำร้ายความรู้สึกของเรา ฉันไม่ต้องการให้ผู้คนนำปัญหาสองอย่างมาปนกัน ฉันไม่คิดว่านี่เป็นปัญหาที่เกิดจากคนรัสเซีย แต่อยากให้มองว่า มาจากคนรัสเซียที่มีอำนาจ ต่างหาก ”
ที่ผ่านมา คูนิส และสามีได้ร่วมบริจาคเงิน และระดมเงินบริจาคผ่านแพลตฟอร์ม GoFundMe เพื่อหาเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้อพยพชายชาวยูเครนตั้งเป้าไว้ 30 ล้านดอลลาร์ ราว 1.002 ล้านบาท
