โลตัส เปิดตัวแอพพลิเคชัน รวมออนไลน์และรีวอร์ดโปรแกรมใหม่ บริการครบ2พันสาขาสิ้นปีนี้

นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า โลตัส เปิดตัว Lotus’s SMART App รวมทั้งโลตัสมาให้ครบ สมาร์ทจบในแอปเดียว แอปพลิเคชันใหม่ที่รวมรีวอร์ดโปรแกรม ใหม่ My Lotus’s ที่มาแทน คลับการ์ด และแพลทฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ในที่เดียว ทั้งนี้ การพัฒนาแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ขึ้น เพื่อเป็น one-stop destination ที่รวบรวมทั้งรีวอร์ดโปรแกรมและออนไลน์ช้อปปิ้งอยู่ในแอปพลิเคชันเดียว เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานของลูกค้าผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย โดย Lotus’s SMART App เข้ามาแทนที่แอพพลิเคชันทั้งหมดที่เราเคยมี โดยนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และประมวลผล big data เพื่อให้สามารถสร้างคูปองส่วนลด โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ เสนอแนะสินค้า ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคน นอกจากนั้น เรายังได้เปิดตัวรีวอร์ดโปรแกรมใหม่ My Lotus’s (มายโลตัส) แทนที่โปรแกรมเดิม โดยปรับให้ประสบการณ์การใช้งาน ทั้งการสะสมและการแลก ง่ายขึ้น ทันใจขึ้น คุ้มขึ้น และตรงใจขึ้นกว่าเดิม โดยโปรแกรม My Lotus’s จะมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันและ 100% paperless ไม่มีการส่งสเตทเม้นท์และคูปองไปยังบ้านของลูกค้า ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เป้าหมายของเราคือการให้ลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการโลตัสเป็นสมาชิกมายโลตัส เพื่อความคุ้มค่าของทุกการใช้จ่าย นอกจากนั้น เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ดาวน์โหลด Lotus’s SMART App เราได้ร่วมมือกับศิลปิน NFT ในการสร้างชิ้นงานศิลปะที่เป็นทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อแจกให้ลูกค้าฟรี โดยลูกค้าสามารถเริ่มเก็บ ticket บนแอพพ์ ตั้งแต่ 1-30 เมษายน นี้ เพื่อแลก NFT Art

ทั้งนี้ จุดเด่นของ My Lotus’s โดยทุกการใช้จ่าย 100 บาท สมาชิกจะได้รับ 1 โลตัสคอยน์ มูลค่าเท่ากับ 1 บาท สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที ทั้งในสาขาและในแอพพลิเคชัน ไม่ต้องรอการส่งสเตทเม้นท์รายเดือนและคูปองอีกต่อไป โดยทุกเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง สมาชิกจะสามารถแลก 50 โลตัสคอยน์ เป็นคูปองเงินสด 100 บาท เพิ่มความคุ้มค่า 2 เท่า เป็นคูปองเงินสด ส่วนลด กว่า 200 รายการ จากการประมวลผลของ AI ตรงใจลูกค้าแต่ละราย โดยในวันที่ 24 มีนาคม ลูกค้าที่เป็นสมาชิกคลับการ์ด ที่มีประมาณ 18 ล้านคน ก็จะสามารถใช้ Lotus’s SMART App ได้ และในระยะยาวจะใช้ได้ครบทั้ง 2,000 สาขาที่เปิดโลตัสเปิดให้บริการแล้ว ภายในไตรมาส 3ปีนี้

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายของโลตัสคือการขยายธุรกิจ คือพัฒนาให้สอดรับกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ในปี 2564 โตขึ้นกว่า 30% ทั้งจากความจำเป็นจากการปิดให้บริการของศูนย์การค้าและความกังวลของประชาชนในเรื่องสุขภาพ ในส่วนของธุรกิจออนไลน์ของโลตัสช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา เติบโตกว่า 250% จากปัจจัยข้างต้น ประกอบกับการขยายช่องทางและเครือข่ายการจัดส่งสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้า คือการเพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์ต่อธุรกิจโลตัสโดยรวม จากเลขหลักเดียว เป็นเลขสองหลัก หนึ่งในปัจจัยสำคัญจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตคือ Lotus’s SMART App ที่พัฒนาออนไลน์ช้อปปิ้ง ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายกว่าเดิมในการใช้งาน

” จุดแข็งของธุรกิจออฟไลน์ของเราคือการมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ เข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจออนไลน์ ในการให้สาขาทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ตและโลตัส โก เฟรช รวมกว่า 2,300 สาขา เป็นจุดกระจายสินค้า ส่งสินค้าตรงถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น ด้วยระยะทางที่ใกล้บ้านลูกค้ามากขึ้น จับมือกับพันธมิตรแพลทฟอร์มดิลิเวอรี่ต่างๆ และฟลีทขนส่งของเราเอง ทำให้สามารถจัดส่งในวันเดียวกัน และจัดส่งในวันถัดไป โดยมีสินค้ากว่า 30,000 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ อาทิ อาหารสด อาหารแห้ง เครื่องดื่ม เครื่องใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เป็นต้น ทั้งนี้ ในเบื้องต้น สั่งจากสาขาเล็กตั้งแต่ 299 บาทจะส่งฟรี และสาขาใหญ่ตั้งแต่ 799 บาทจะส่งฟรี ” นายธรินทร์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image