อส.ให้เอกชนยื่นซองจำหน่ายอาหารที่ส.อัยการรัชดา2 ถึง12 เม.ย. ประกาศผู้ได้ 29 เม.ย.

อส.ให้เอกชนยื่นซองราคาเสนอตัวจำหน่ายอาหารในสำนักงานอัยการรัชดา 2 จุดถึง 12 เม.ย.นี้ก่อนประกาศผู้ได้คัดเลือก 29 เม.ย.

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เวทย์วิไล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการร้านอาหารสวัสดิการสำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง ให้เอกชนเข้าดำเนินการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม และขนมหวาน ที่ร้านอาหารสวัสดิการสำนักงานอัยการสูงสุด (อาคารถนนรัชดาภิเษก)

ความว่า ด้วยสำนักงานอัยการสูงสุด มีความประสงค์จะให้เอกชนเข้าดำเนินการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน ให้แก่บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดและผู้มาติดต่อราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ย.65-31 มี.ค.67 ระยะเวลา 22 เดือน โดยกำหนดให้จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน อาคารถนนรัชดาภิเษก ดังนี้ 1.ร้านอาหารสวัสดิการ ชั้น 1 จำนวน 1 ร้าน 2.ร้านอาหารสวัสดิการ บริเวณสวนหย่อม จำนวน 1 ร้าน

ผู้ดำเนินการต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1.การรักษาความสะอาด (1) ดูแลรักษาอุปกรณ์และวัสดุครุภัณฑ์ให้สะอาดอยู่เสมอ หากเกิดความเสียหาย หรือสูญหายแก่อุปกรณ์หรือวัสดุครุภัณฑ์ดังกล่าวต้องซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมหรือจัดหามาทดแทน ตามจำนวนและคุณภาพดีเช่นเดิม แล้วแต่กรณี (2) รักษาความสะอาดสถานที่เตรียมอาหาร และปรุงอาหารบนโต๊ะสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60ซม. ต้องรักษาบริเวณพื้น ผนัง และเพดานของร้านอาหารให้อยู่ในสภาพถูกสุขอนามัยตลอดเวลา ไม่มีเศษอาหาร คราบอาหาร หยากไย่ หรือสิ่งสกปรกอื่นตกค้าง (3 ) อาหารและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปรุงอาหารต้องสะอาด ถูกสุขอนามัย (4) ผู้ปรุงอาหารและผู้จำหน่ายอาหาร ต้องมีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อ และแต่งกาย ด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด สวมหมวกสีขาวหรือเนทคลุมผมและสวมผ้ากันเปื้อนสีขาว (5) กำจัดแมลงและสัตว์พาหะนำโรคอย่างถูกวิธีและปลอดภัยอยู่เป็นประจำ (6) ทำความสะอาดภาชนะและอุปกรณ์จัดวาง อาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานในที่ที่สะอาด ปราศจากแมลงไต่ตอม ห้ามวางบริเวณพื้นทางเดิน และต้องทำความสะอาดที่ดักไขมันประจำร้านทุกวัน รวมทั้ง ช่วยดูแลความสะอาดบ่อดักไขมันรวมเป็นประจำ หากพบว่าบ่อดักไขมันรวมไม่สะอาดให้รีบแจ้ง หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไปประจำอาคารทันทีเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทำความสะอาดต่อไป
(7)เก็บขยะเศษอาหารในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดไม่รั่วซึม และกำจัดทิ้งทุกวัน

ADVERTISMENT

2.ปรับปรุงบริเวณพื้นที่จำหน่ายอาหารให้สวยงาม สะอาด โดยต้องทาสีผนังห้องอาหารให้ดูใหม่ อยู่เสมอด้วยค่าใช้จ่ายของตนเอง
3.จัดหาวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ และเก้าอี้ ภาชนะใส่อาหาร เช่น จาน ชาม และช้อนส้อมที่มีคุณภาพ ดีและสวยงาม เพื่อบริการให้แก่ผู้บริโภค ภาชนะอุปกรณ์ต้องไม่ตกแต่งสี และเป็นภาชนะที่ทำด้วยวัสดุไม่มีพิษ ภาชนะใส่เครื่องปรุงรส รวมทั้งซ้อนที่ตกต้องสะอาดและผลิตด้วยแก้ว กระเบื้องเคลือบขาว หรือสแตนเลส ต้องมีฝาปิดและอยู่สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60 ซม. รวมทั้งต้องจัดน้ำดื่มไว้บริการโดยไม่คิดค่าตอบแทน
4. เก็บน้ำดื่มในภาชนะที่สะอาด มีฝาปิดและมีช่องสำหรับรินน้ำออกโดยเฉพาะ และต้องตั้งอยู่สูง จากนั้นไม่น้อยกว่า 60 ซม. น้ำแข็งที่ใช้บริโภคต้องเก็บในภาชนะที่สะอาดและไม่นำอาหารหรือสิ่งอื่น ๆ มาแช่รวม โดยต้องมีช้อนตักหรือปากคีบน้ำแข็งด้ามยาวที่สะอาดและไม่เป็นสนิม 5.จัดหาพนักงานไว้สำหรับให้บริการด้วยความสุภาพ เรียบร้อย เป็นมิตร โดยให้แต่งกายตามที่ กำหนดไว้ในข้อ 1(4) 6.จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานตามราคาที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนดไว้ และจัดทำป้ายบอกราคาอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานให้ผู้บริโภคทราบ 7.เปิดบริการในวันราชการ ตั้งแต่เวลา 06.30 น. และปิดไม่เกินเวลา 18.30 น.

8.ชำระค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าให้แก่สำนักงานอัยการสูงสุด ตามจำนวนหน่วยที่ใช้ซึ่งปรากฏ คำนวณราคาต่อหน่วยตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนด 9.ต้องดำเนินการด้วยตนเอง ห้ามโอนสิทธิ มอบช่วงสิทธิ อนุญาตหรือยินยอมให้ผู้อื่น ดำเนินการแทน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสำนักงานอัยการสูงสุด หากมีการฝ่าฝืน จะถือว่าประพฤติผิดสัญญา และตกลงยินยอมให้สำนักงานอัยการสูงสุดเรียกค่าเสียหายและบอกเลิกสัญญา ได้ทันที 10.ผู้ประสงค์จะเข้าดำเนินการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน จะต้องแจ้ง ความประสงค์ขอใช้พื้นที่ และตกลงชำระค่าตอบแทนการใช้พื้นที่ (ยื่นซองราคา) ให้แก่กองทุนสวัสดิการ สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นรายเดือน ดังนี้ 10.1ร้านอาหารสวัสดิการ ชั้น 1 เดือนละไม่ต่ำกว่า1หมื่นบาท 10.2 ร้านอาหารสวัสดิการ บริเวณสวนหย่อม เดือนละไม่ต่ำกว่า 5พันบาท

ADVERTISMENT

โดยผู้รับอนุญาตต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่สำนักงานอัยการสูงสุดในวันที่ทำสัญญาฯ และผู้รับอนุญาตตกลงจะชำระค่าตอบแทนล่วงหน้าภายในวันที่ 1 ของเดือนทุก ๆ เดือนไป ผู้รับอนุญาตจะต้อง ปรับปรุงร้านอาหารสวัสดิการสำนักงานอัยการสูงสุดให้อยู่ในสภาพที่สะอาด ถูกสุขอนามัย สวยงาม ด้วยค่าใช้จ่ายของตนเองและจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(1) จัดสัดส่วนของโครงสร้างของอุปกรณ์ที่ใส่อาหาร เครื่องดื่ม ของเบ็ดเตล็ดแยกจากกัน โดยจัดให้มีที่สำหรับวางขาย เคาน์เตอร์ชั้นวางของ ตู้แช่เครื่องดื่ม หรือตู้เบเกอรี่ เป็นต้น
(2) จัดให้มีเคาน์เตอร์สำหรับเลือกชมอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน โต๊ะชำระค่าอาหาร โต๊ะวางอุปกรณ์เครื่องปรุงรสและตู้เย็นพร้อมแก้วน้ำ
(3) จัดให้มีตู้ทำน้ำเย็นเพื่อให้บริการ จำนวน 1 จุด พร้อมจัดแก้วน้ำที่ถูกสุขอนามัย ในจำนวนที่เพียงพอ
(4) จัดให้มีเครื่องครัวที่อยู่ในสภาพดีและถูกสุขอนามัย
(5) จัดให้มีจาน ช้อนส้อม ถ้วย แก้วน้ำและอุปกรณ์ประกอบอาหารที่สะอาดถูกสุขอนามัย
(6) ให้มีแจกันดอกไม้ กระดาษทิชชูและไม้จิ้มฟัน อย่างดี
(7) จัดให้มีต้นไม้ประดับมุมต่างๆ ตามความสวยงามและเหมาะสมสำหรับห้องอาหารตลอด ระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนประกอบการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน แต่ต้องไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่ลงนามในสัญญาการจัดร้านอาหารสวัสดิการสำนักงานอัยการสูงสุด

11.ผู้ประสงค์จะเข้าดำเนินการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน สามารถยื่นใบแสดง ความจำนงในการขอใช้พื้นที่ได้ที่ สำนักสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.65 -12 เม.ย.65 วันและเวลาราชการ

12.สำนักงานอัยการสูงสุดสงวนไว้ซึ่งสิทธิในการพิจารณาคัดเลือกผู้ดำเนินการโดยปราศจาก ข้อผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น คำวินิจฉัยของสำนักงานอัยการสูงสุดให้ถือเป็นที่สุด

13.สำนักงานอัยการสูงสุดจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ทราบ ณ สำนักงาน อัยการสูงสุด และอาคารถนนรัชดาภิเษก ภายในวันที่ 29 เม.ย.

14.ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมาทำสัญญาฯ เพื่อจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานที่สำนักสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ สำนักงานอัยการสูงสุด ชั้น 2 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
ในวันและ เวลาราชการ 10 พ.ค.65 หากผู้ได้รับการคัดเลือกลำดับที่ 1 ไม่สามารถดำเนินการทำสัญญาฯ พร้อมกับนำเงินสดมาวางเป็นหลักประกันสัญญาฯ ดังนี้ ได้ภายในกำหนด สำนักงานอัยการสูงสุดจะให้ผู้ได้รับการคัดเลือกลำดับที่ 2 มาดำเนินการทำสัญญาฯ ภายใน วันที่ 13 พ.ค.

ผู้ประสงค์สมัครเข้าเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารสวัสดิการสำนักงานอัยการสูงสุด สามารถติดต่อ และสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ โทรศัพท์ 02 1422131
ในวันและเวลาราชการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image