แรงงานสัญชาติลาว 236 คนเข้าไทย ผ่านด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หนองคาย
วันที่ 28 มีนาคม แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานตาม MOU สัญชาติลาว กลุ่มแรก จำนวน 236 คน ได้เดินทางเข้ามาในไทย ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด
เริ่มตั้งแต่การพักคอย ก่อนจะผ่านด่านตรวจควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ที่ได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบเอกสารหลักฐานยืนยันการรับวัคซีน และผลตรวจ ATK/RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม.จากประเทศต้นทาง จากนั้นก็ผ่านขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง ที่มีการจัดเก็บข้อมูลแรงงานต่างด้าว ตรวจลงตราประทับ และตรวจหนังสือเดินทาง ส่วนด่านศุลกากร ก็ได้มีการตรวจ X-Ray กระเป๋าสัมภาระ และจุดสุดท้ายก่อนที่จะกักตัวตามสถานที่ผู้ประกอบการหรือนายจ้างได้เลือกไว้ ก็ได้มีการผ่านการตรวจของศูนย์แรกรับฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายอารักษ์ ส่องแสง จัดหางานจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วันนี้เป็นนำเข้าแรงงาน MOU ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว เป็นวันแรก หลังจากที่ได้มีการลงนามความร่วมมือกันไว้ ซึ่งในวันนี้มีแรงงานกลุ่มแรกเดินทางเข้ามาจำนวน 236 คน ถือเป็นแรงงานกลุ่มแรกที่นำเข้ามาหลังจากหยุดการนำเข้าแรงงานฯมาแล้วกว่า 2 ปี หลังจากแรงงานเดินทางมาถึง ก็ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนตามที่ ศบค.กำหนด ที่มีอยู่ทั้งหมด 8 ขั้นตอน ขั้นตอนที่เดินทางมาถึงจังหวัดหนองคายนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ 7 แล้ว เป็นขั้นตอนที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว จำนวน 7-14 วัน ตามการรับวัคซีน คือถ้ารับวัคซีนครบโดส กักตัว 7 วัน และถ้าได้รับวัคซีนไม่ครบ กักตัว 14 วัน แรงงานกลุ่มแรกนี้กักตัว 7 วัน เพราะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว หลังกักตัวครบแล้วก็สามารถเดินทางไปทำงานกับนายจ้างได้
จัดหางานจังหวัดหนองคายกล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับขั้นตอนต่างๆ ในวันนี้ จะเริ่มจากแรงงานทุกคนต้องผ่านด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จากนั้นก็ผ่านกระบวนการทางตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร จากนั้นก็ส่งไปยังสถานที่กักตัวที่นายจ้างได้เลือกไว้ วันนี้มี 2 แห่ง คือที่โรงแรมแกรนด์พาราไดซ์ และห้องเช่าเรือนเพชร ซึ่งจากข้อมูลความต้องการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานตาม MOU สัญชาติลาว ในราชอาณาจักรของนายจ้าง/สถานประกอบการ ทั้งประเทศ จำนวน 11,352 คน เฉพาะจังหวัดหนองคายเอง มีความต้องการแรงงานต่างด้าวฯ จำนวน 113 คน ซึ่งจะมีการทยอยเข้ามาเป็นระยะๆ ส่วนที่สถานที่กักตัวในจังหวัดหนองคาย มีทั้งหมด 12 แห่ง รองรับการกักตัวได้จำนวน 1,800 คน ส่วนกลางในการพิจารณาอนุญาตให้สอดคล้องกับสถานที่กักตัวของจังหวัดหนองคาย จึงต้องใช้การทยอยเข้ามาตามจำนวนที่กักตัว ซึ่งจะส่งผลดีโดยเฉพาะนายจ้างที่จะแก้การขาดแคลนแรงงาน ส่วนในจังหวัดเองก็จะเกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจให้กับสถานประกอบการภายในจังหวัดด้วย
ทางด้านตัวแทนผู้ประกอบการสถานที่กักตัว บอกว่า การที่แรงงานเข้ามากักตัวก่อนไปทำงานกับนายจ้าง ได้ส่งผลดีกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะที่พักในจังหวัดหนองคายเป็นอย่างมาก เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมา โรงแรมและสถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดตัวเอง เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายให้กระทรวงแรงงาน นำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย ก็ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดหนองคายเกิดการฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
