‘อาคม’ เผยรัฐบาลยังไม่มีวี่แวว กู้เงินเพิ่ม-สันติ’ ชี้พร้อมศึกษา ด้านการเงิน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

‘อาคม’ เผยรัฐบาลยังไม่มีวี่แวว กู้เงินเพิ่ม ด้าน ‘สันติ’ ชี้คลังพร้อมศึกษา ด้านการเงิน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์โควิด ยังไม่คลี่คลาย มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก จนทำให้หลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงการคลัง สามารถกู้เงินเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้พิจารณาประเด็นการกู้เงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด จากที่เคยจัดทำพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินไปแล้ว 1.5 ล้านล้านบาท โดยปัจจุบันเงินกู้ยังเหลืออยู่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในช่วงประคองประชาชน แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤติราคาพลังงานแพง และวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าทั้ง 2 วิกฤตจะผ่านพ้นไปเร็วๆนี้ โดยเชื่อว่าสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะไม่ยืดเยื้อยาวนานเกิน2-3 เดือน ขณะที่วิกฤตโควิด จะเป็นโรคประจำถิ่นในเดือนกรกฎาคมนี้ เมื่อทั้ง 2 เหตุการณ์คลี่คลาย ความเดือดร้อนของประชาชนก็จะคลี่คลายตามไปด้วย

“ส่วนประเด็นการกู้เงินเพิ่ม เพื่อฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจนั้น เชื่อว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ศึกษาเตรียมการไว้แล้ว หากมีความจำเป็นต้องกู้เพิ่มก็ต้องกู้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้วางแผนไว้เตรียมไว้หมดแล้ว ด้วยการกู้เงินถึง 1.5 ล้านล้านบาท เช่นเดียวกันการขอขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ หรือ จีดีพี เพิ่มเป็น 70% ของจีดีพี ก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อมไว้รองรับอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะกระทรวงการคลัง มีวิธีบริหารจัดการเงิน และมีเงินที่จะนำมาใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ”นายสันติ กล่าว

Advertisement

นายสันติ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ถูกมองว่า รัฐบาลเป็นหนี้ไม่มากเท่ากับหนี้ของประชาชนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากภาระหนี้ของรัฐบาล ก็เพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะหนี้ของประชาชน เป็นเพราะวิกฤตโควิด ราคาพลังงานแพง หากทั้ง 2 เหตุการณ์คลี่คลาย ประชาชนสามารถทำงาน มีเงิน ก็สามารถนำเงินมาผ่อนชำระหนี้ได้ แต่เมื่อยังไม่มีรัฐบาล ก็มีมาตรการพักชำระหนี้ให้ ซึ่งผู้เป็นหนี้ก็ต้องเจรจาพักชำระหนี้ไว้ก่อน เมื่อกลับมาทำงาน มีเงิน มีความสามารถชำระหนี้ได้อีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image