ธนารักษ์ลงพื้นที่ป่าแหว่ง เผยติดข้อกฎหมายรับมอบครุภัณฑ์ เปิดทางปชช.ฟื้นฟูป่าเร็วที่สุด

ธนารักษ์ลงพื้นที่ป่าแหว่ง เผยติดข้อกฎหมายรับมอบครุภัณฑ์ เปิดทางปชช.ฟื้นฟูป่าเร็วที่สุด

เมื่อ วันที่ 4 เมษายน 2565 ที่บริเวณที่ร้านกาแฟ สันอ่างเก็บน้ำแม่จอก สำนักงานชลประทานเชียงใหม่ นายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ น.ส.ลักขณา ศรีหงส์ ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมนายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ พร้อมคณะเดินทางลัดเลาะไปตามแนวป่าเขตติดต่อสำนักงานชลประทานกับแนวรั้วบ้านพักศาลอุทธรณ์ ภาค 5 เพื่อเข้าสำรวจและเยี่ยมชมบ้านป่าแหว่งที่อยู่ในระหว่างการส่งคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพให้กับกรมธนารักษ์ หลังจากยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปี ก่อนเตรียมการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูป่าให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ

โดยนายธีรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการเดินเข้ามาสำรวจพื้นที่ป่าด้านข้างหลังระยะทาง 1.7 กิโลเมตร การจากทวงคืนพื้นที่ป่าที่มีการก่อสร้างบ้านพัก 45 หลัง โดยเบื้องต้นที่หารือกันมีแนวคิดที่จะทำรั้วกั้น ก่อนเข้าปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าให้เร็วที่สุด

ทางด้านธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวชี้แจงการรับมอบพื้นที่คืนจากศาลอุทธรณ์ ภาค 5 กล่าวว่า ประเด็นในส่วนของการรับคืนพื้นที่คืน คือ ต้องรับคืนครุภัณฑ์ นอกเหนือจากสิ่งปลูกสร้างและที่ดิน ทำให้ยังไม่สามารถรับคืนจากศาลอุทธรณ์ได้ จึงมีการหารือไปยังกรมธนารักษ์ให้เร่งรัดพิจารณาว่าอสังหาริมทรัพย์ เครื่องใช้ต่างๆ ว่าจะรับคืนได้หรือไม่ หากรับได้ก็จะจบเร็ววันนี้ เมื่อรับแล้วก็จะหาวิธีการบริจาคให้กาชาด ส่วนราชการ หรือองค์การสาธารณกุศลนำไปใช้เพื่อประโยชน์สูงสุด และนำพื้นที่ส่วนนี้ส่งมอบให้ประชาชนชาวเชียงใหม่เพื่อปลูกป่าและฟื้นฟู ส่วนเรื่องบ้านพัก 45 หลังต้องขอบคุณแกนนำที่ระบุว่าจะไม่รื้อแต่ปล่อยให้ผุพังไปตามสภาพ

“ครุภัณฑ์ส่วนใหญ่ในบ้านพักแต่ละหลัง ก็จะเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ ตู้เย็น แอร์คอนดิชั่น เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ วันนี้เราได้รับอนุญาตให้เข้าไปสำรวจภายในได้ 1 หลัง ก็จะทราบว่ามีอะไรบ้าง ประมาณ 1,866 รายการ ส่วนระยะเวลาก็อยู่ที่การดูข้อกฎหมาย เพราะกรมธนารักษ์ไม่มีกฎหมายในการรับคืนเฟอร์นิเจอร์ เพราะเป็นภาระในการจัดการต้องมียามมาดูแล แต่จะเร่งทำให้ด่วนที่สุด เพราะส่งเรื่องไปส่วนกลางแล้วเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ ” นายกรจักร กล่าว

Advertisement

นายณัฐดนัย ทรนงค์ชัยภักดิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น หรือ CMK ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักงานสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 แห่งใหม่ที่ จ.เชียงราย เปิดแถลงข่าวถึงสาเหตุงานล่าช้า ณ ร้านกาแฟสันอ่างเก็บน้ำว่า บริษัทรับเหมาช่วงมาจากบริษัท JV กิจการร่วมค้า เอสที-แมกซ์เอนส์-ไทยพารากอน-ทีดับบิว ซึ่งประกอบด้วย 4 บริษัท คือ บริษัทชิโนไฮโดร (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทแมกซ์เอนส์ จำกัด บริษัทไทยพรากอน คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษํททรูเวิร์คบิวเดอร์ จำกัด ของชาวจีนและชาวไทยที่ประมูลงานจากสำนักงานศาลยุติธรรมในราคา 737 ล้าน จากงบประมาณ 895 ล้านบาท

“บริษัทผมรับงานในในราคา 590 ล้านบาท ไม่รวมงานดินระยะเวลาก่อสร้าง 1,050 วัน ซึ่งการก่อสร้างต้องแล้วเสร็จในวันที่ 7 กันยายน 2565 แต่งานก้าวหน้าไปประมาณ 11% แต่ไม่สามารถทำต่อได้ เพราะไม่มีการจ่ายเงินตั้งแต่การส่งมอบงานครั้งที่ 2 โดยอ้างว่ามีการจ้างช่วง และต้องถูกปรับรวม 59 ล้านบาท ในขณะที่ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยหยุดงานเลยแม้แต่วันเดียว และลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับเงินจริงเพียง 2,010,000 บาทเท่านั้น ตอนนี้จึงไม่มีเงินในการก่อสร้างต่อ ผมยืนยันว่าหากให้โอกาสก็จะทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับจากนี้ ขอให้เห็นใจพนักงานและแรงงานกว่า 130 คนที่ไม่ได้รับเงินมากว่า 6-7 เดือนแล้ว บางคนต้องลาออกและบางส่วนเดินหน้าฟ้องศาลแรงงาน”

นายณัฐดนัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทำงานภายใต้การเดินเรื่องทุกอย่างโดยบริษัท JV ที่จะประสานผ่านผู้อำนวยการสำนักงานศาล ซึ่งบริษัท JV มีตัวตนจริงรับงาน 5-6 พันล้าน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image