อนาคตท่องเที่ยวคึกคัก“แอสเสท เวิรด์”กดปุ่มบริการ“มีเลีย เชียงใหม่”นำร่องเปิดประตูสู่เมืองเหนือ

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการเรื่องการเดินทางเข้าประเทศ โดยยกเว้นการตรวจแบบ RT-PCR จากประเทศต้นทางก่อนเดินทางเข้าไทย เหลือเพียงตรวจ Test & Go ในวันแรกเมื่อเดินทางมาถึงและตรวจ self-ATK อีกครั้งในวันที่ 5 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในภาพรวมของไทยกลับมาคึกคัก สะท้อนผ่านจากจำนวนเที่ยวบินและตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ถึงหลักหมื่นคนต่อวัน จึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดปี ส่งผลให้ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท

นางสาวสมฤดี กล่าวว่าภาครัฐยังเตรียมปลดล็อกเงื่อนไขการเข้าประเทศทั้งหมดให้เหมือนกับก่อนวิกฤตโควิด-19 หรือก่อนปี 2563 ด้วยการนำเสนอ ศบค. ยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass และการเข้าประเทศในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Test & Go และ Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 จะทำให้ภาพรวมของการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ นโยบายการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวปี 2565 ททท.มุ่งขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด  “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นิว แชปเตอร์” หรือ นำเสนอภาพใหม่        ของการท่องเที่ยวไทย พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวด้วยเรื่องราวภาพการท่องเที่ยวแบบใหม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท.กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น โรงแรมเครือ AWC 19 แห่งทั่วประเทศ  ยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ ททท. เดินหน้าโครงการ Workation Paradise Throughout Thailand หรือ ปลี่ยนทุกที่เป็นสถานที่ทำงานคู่ท่องเที่ยว  คาดว่าจะสามารถช่วยรองรับการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ( MICE) แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะภาคท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวชีดเจนในปี 2566

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ขณะนี้เห็นสัญญาณบวกของการเริ่มฟื้นตัวกลับมาของเศรษฐกิจ ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมและการท่องเที่ยว โดยเห็นการขยายตัวหลายเท่าตัวจากการจองห้องพัก จนเข้าไตรมาส 2 ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว พบว่า จำนวนผู้คนเดินทางกลับบ้านใช้ชีวิตกับครอบครัว ออกท่องเที่ยวและรับประทานอาหารนอกบ้าน มากขึ้น  ซึ่งทำให้การจับจ่ายใช้สอยกลับมาคึกคัก สร้างเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนในประเทศมากยิ่งขึ้น

Advertisement

“ ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย หลังการรัฐคลายล็อกที่มีอยู่ และรัฐประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น  จึงจะสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายปี 2565 ทุกกลุ่มธุรกิจของ AWC จะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับเทรนด์การเดินทางที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบ Long Stay และ Workation ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางในวันธรรมดามากขึ้น  เปิดโอกาสให้บุคลากรในหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ และกลุ่มคนวัยทำงาน สามารถเปลี่ยนสถานที่ทุกที่ให้เป็นที่ทำงาน ท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม” นางวัลลภา กล่าว

นางวัลลภา กล่าวว่า ภาพรวมยอดจองโรงแรมของ AWC กลับมาคึกคักตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ถึงไตรมาสแรกปีนี้ โดยมียอดเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ทำให้บริษัทมุ่งลงทุนพัฒนาโครงการคุณภาพใหม่ๆ และร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก  เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการกลับมาของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงสร้างจุดหมายปลายทางแห่งการทำงานและพักผ่อนในระดับสากล

โดยล่าสุดได้เปิดตัวโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวขนาด 260 ห้องพัก ภายในโรงแรมออกแบบภายใต้แนวคิด “CHIANGMAI CHARM” ผสมผสานอัตลักษณ์ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีมนต์เสน่ห์ ผ่านการตกแต่งภายในด้วยศิลปหัตกรรมท้องถิ่นร่วมสมัย จนไปถึงการนำเสนออาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชุมชนทั่วเชียงใหม่ ไฮไลท์กับจุดชมวิวทิวทัศน์ “ไหม เดอะ สกาย บาร์” รูฟท็อปบาร์บนยอดอาคารสูงสุดในเมืองเชียงใหม่ บริษัทตั้งเป้าเสริมพอร์ตคุณภาพของ AWC ในภาคเหนือให้ครบ 3 แห่งภายในปี 2565 โดยจับมือกับเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่) เครือมีเลีย (มีเลีย เชียงใหม่) และเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป หรือ IHG กับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง คาดจะเปิดให้บริการได้ปลายปีนี้ เพื่อผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาคและของประเทศต่อไป

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image