สถานีคิดเลชที่ 12 : ตัวเลข‘ร้อน’หลังสงกรานต์

สถานีคิดเลชที่ 12 : ตัวเลข‘ร้อน’หลังสงกรานต์

นายสุชาติ ชมกลิ่น ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ แง้มที่มาของเป้าหมาย 150 ส.ส. ให้เห็นคร่าวๆ แล้ว

ประกอบด้วย กทม. 10 เสียง กลาง 70 เสียง อีสานและภาคเหนือ 30 เสียง ใต้ 20 เสียง ปาร์ตี้ลิสต์ 25 เสียง

รวมแล้ว 155 เสียง

Advertisement

หากเป็นไปตามเป้าหมายนี้ พรรคพลังประชารัฐก็มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้าอีกสมัยก็สูง

เมื่อมีโอกาส ก็คงต้องถามต่อไปว่า แล้วใครจะเป็น “ผู้นำ”

หากถามนายสุชาติ ก็คงโน้มเอียงไปทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สนับสนุนกันมาตลอด

Advertisement

แต่กระนั้นกระแสดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ไม่เคยสร่างซา

แค่ พล.อ.ประวิตรขึ้นป้ายอวยพรช่วงสงกรานต์ก็เป็นประเด็นร้อนทางการเมืองแล้ว

ด้วย “คนคิดมาก” ไม่ได้มองว่าเป็นแค่ประเพณีอย่างที่ พล.อ.ประวิตรชี้แจง

หากแต่แฝงหาเสียงล่วงหน้า

และยังถูกตั้งข้อสงสัยอีกว่า นี่เป็นความพยายามชู พล.อ.ประวิตรขึ้นมาให้โดดเด่นเหนือ “น้องประยุทธ์” หรือไม่

จน พล.อ.ประยุทธ์ถูกนักข่าวซักไซร้ให้รำคาญใจอีกครั้ง ว่า พล.อ.ประวิตรเตรียมเป็นนายกฯหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ตอบเสียงสูงว่า “ท่านก็ยืนยันร้อยครั้งว่าไม่เป็น”

“ผมถาม พล.อ.ประวิตรท่านก็พูดแบบเดิมทุกครั้ง ไม่เคยสงสัยเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมแตกคอกันได้ทั้งสิ้น…ท่านไม่เคยบอกว่าจะเป็นหรือไม่เป็น แต่ท่านก็บอกผมว่าท่านก็ยินดีและสนับสนุนนายกฯตลอดไป”

ยืนยันชัดๆ กันอย่างนี้ ถามว่า จบไหม

ก็คงต้องตอบว่าไม่จบ ด้วยเพราะ เกมแห่งอำนาจ มันพลิกผันอยู่ตลอดเวลา

และที่สำคัญ ที่ผ่านมาก็มีอะไรจากพรรคพลังประชารัฐ และจาก 3 ป. ให้คนคิดมากอยู่ตลอดเหมือนกันมิใช่หรือ

ขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่มีเป้าหมายแลนด์สไลด์ ก็เขย่า 3 ป.และพรรคพลังประชารัฐอยู่ตลอด ว่าเครือข่ายอำนาจ 3 ป.มีปัญหา ที่ พล.อ.ประวิตรขึ้นป้ายสงกรานต์อาจแฝงเจตนาพร้อมเป็นนายกฯ

เสี้ยมกันแบบไม่เกรงใจขนาดนี้

จึงไม่แปลกที่พรรคพลังประชารัฐ จะชูเป้าหมาย 150 เสียง สกัดฝันแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย

และคงจะบลั๊ฟกันไปจนถึงวันเลือกตั้งครั้งใหม่นั่นแหละ

และไม่ใช่แค่ 2 พรรคข้างต้น

พรรคภูมิใจไทย ก็ใช่ย่อย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ให้สัมภาษณ์ประชาชาติธุรกิจ ก็โชว์ตัวเองเต็มที่คือจากพรรคกลาง ตอนต้นสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มี 51 เสียง แต่ตอนนี้ ตัวเลข ส.ส.ดีดไปถึง 61 เสียง และยังฝากเลี้ยงไว้ในพรรคอื่นอีกหลายคน

จึงมีคำถามอย่างท้าทาย จากนายอนุทิน ว่าทำไมมองว่าภูมิใจไทยมักอยู่ฝ่ายผู้ชนะ ทำไมไม่มองว่าภูมิใจไทยจะเป็นตัวแกนบ้างล่ะ

ถือเป็นความทะเยอทะยานในห้วง “ขาขึ้น” ไม่น้อย

และคงทำให้ภูมิใจไทยเป็นหมากสำคัญในเกมชิงอำนาจที่น่าจับตามอง

แต่ที่ต้องจับตามองและน่าห่วงใยไปพร้อมๆ กันคือ พรรคประชาธิปัตย์

ที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ไปประกาศในงานรดน้ำดำหัวที่บ้านพัก อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

“วันนี้ประชาธิปัตย์มี ส.ส. 51 คน ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะมี ส.ส.มากกว่านี้ หากไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ผมจะเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต”

เดิมพันแบบหมดน่าตัก ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่ดีเอาเสียเลย ด้วยนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผชิญข้อหาฉกาจฉกรรจ์ ในประเด็น “สตรี”

ซึ่งไม่เพียงจะสะเทือนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น

ยังน่าจะสะเทือนถึงการชูคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในพรรคด้วย ที่ผ่านมา นายปริญญ์ ถือเป็นจุดขายสำคัญคนหนึ่ง

เจอแบบนี้เสียหายหนัก

ทำให้การเดิมพันของนายเฉลิมชัย สุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง

ตัวเลขการเมืองหลังสงกรานต์จึงร้อนและต้องลุ้นกันสนุก

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image