เจ้าหนี้แจ้งเอาผิดสาวหอบลูก-สามีไปตุรกี เผยถูกหลอกร่วมลงทุนกว่า 1.5 ล.

เมื่อวันที่ 24 เมษายน กรณีญาติประกาศตามหา นายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี น.ส.นฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี พร้อมลูก รวม 4 คน ในเพจและโซเชียลว่าหายตัวไปจากบ้านกว่า 10 วัน และพบว่าเดินทางออกนอกประเทศปลายทางที่ตุรกี พร้อมมีข้อมูลว่า การเดินทางออกนอกประเทศในครั้งนี้มีผู้เสียหายที่ให้ น.ส.นฤมล กู้ยืมเงินและนำเงินมาลงทุนหลายราย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งที่หลงเชื่อนายนิรุตน์ และ น.ส.นฤมล ที่ให้ยืมเงินไปลงทุน 1.5 ล้าน โดยผู้เสียหายเล่าว่า เริ่มต้นลงทุนกับ น.ส.นฤมล ตั้งแต่ ธ.ค. เริ่มจาก 5 แสนบาท และทยอยเพิ่มขึ้นเพราะเชื่อใจ จากนั้นชวนเพื่อนอีก 2 คน ร่วมลงทุนยอดเงิน 1.5 ล้านบาท โดยรับผลตอบแทน 2-3 เปอร์เซ็นต์จากเงินต้น ก็ได้รับเงินคืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ข้อหาหมิ่นประมาทและฉ้อโกง เนื่องจาก น.ส.นฤมล แอบอ้างชื่อว่าเป็นผู้ดูแลกองทุนในอำเภอบ้านด่านลานหอย ทำให้เสียชื่อเสียงโดยตนไม่รู้เรื่อง

ผู้เสียหายกล่าวว่า รู้จัก น.ส.นฤมล จากการขายสินค้าที่เคยทำธุรกิจร่วมกัน ต่อมารู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีของกรรมการกองทุนหมู่บ้าน 2 กองทุน ที่หมู่ 3 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย คือกองทุนออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านไร่ และกองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชน มีพฤติกรรมชวนคนรู้จักให้ลงทุนปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านที่ไม่สามารถใช้เงินคืนกองทุนได้เมื่อถึงเวลากำหนด น.ส.นฤมล ทำตัวเป็นคนกลางจะได้ดอกเบี้ยจากทั้งสองฝ่าย คือทั้งผู้เดือดร้อนและนายหน้า เป็นดอกเบี้ยทั้งสองทาง ประมาณ 2-3% และทราบว่ามีการระดมทุนด้วยการแอบอ้างว่าดูแลหลายกองทุนในจังหวัดสุโขทัย เป็นกองทุนวัวบ้าง หมูบ้าง กองทุนรวมบ้าง แล้วแต่จะกล่าวชวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหายบอกว่าเคยร่วมลงทุนไป 5 รอบ และเคยคืนทุนมาเป็นก้อนล้านกว่าบาท และเอาไปลงทุนใหม่ จึงเชื่อใจ มีการโอนเงินผ่านธนาคารมาต่อเนื่องและตรงเวลาตลอด โดยเป็นผู้โอนเงินจากการชวนเพื่อนอีก 2 คน ส่วนเรื่องการเดินทางไปประเทศตุรกีคิดว่าน่าจะมีการวางแผนมาล่วงหน้าเพราะมีการขายบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้อรถ และสงสัยว่าการเดินทางระบุเวลา 20.30 น. แต่มีการออกจากกลุ่มไลน์เวลา 22.09 น. อยากรู้ว่าใครเป็นคนลบข้อมูลไลน์ หรือมีใครถือโทรศัพท์แทน น.ส.นฤมล เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเงินหรือไม่ อยากรู้ว่าเอาเงินไปทำอะไร ลงทุนไปเสียหาย หรือใช้เงินเกินตัว อยากให้มาคุยกัน ยังคาดหวังว่าจะได้เงินคืน เพราะต้องรับผิดชอบยอดของเพื่อนที่ชวนมาด้วย ซึ่งเป็นเงินที่เก็บออมทั้งชีวิต ส่วนเจ้าหนี้นั้นทราบว่ามีกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม มียอดหนี้ตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท รวมยอดกว่า 20 ล้านบาท มีทั้งข้าราชการ แม่ค้า ชาวบ้าน บางคนได้ผลกำไรมาบ้าง บางคนลงทุนไปยังไม่ได้เงินกำไรคืนเลยสักบาท และกำลังรวมตัวกันหาหลักฐานต่างๆ เพื่อแต่งตั้งทนายความเข้าแจ้งความเอาผิดต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image