กสิกรไทย คาดเปิดปท.เต็มรูปแบบ นทท.มาไทย 3แสนคนต่อเดือน

กสิกรไทย คาดเปิดประเทศเต็มรูปแบบ กระตุ้นนทท.มาไทย 3แสนคนต่อเดือน เพิ่มรายได้ท่องเที่ยวอีก 6.5แสนล้าน

เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การเปิดประเทศโดยยกเลิกมาตรการ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ในขณะที่ทั่วโลกมีประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบรวมแล้ว 104 ประเทศ ล้วนส่งเสริมบรรยากาศการเดินทางและท่องเที่ยวทั่วโลกให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 นานกว่า 2 ปี

โดยข้อมูล ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2565 เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 300,000 คน มากกว่าไตรมาสแรกที่มีชาวต่างชาติเที่ยวไทยเฉลี่ยเดือนละ 166,000 คน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านคน สร้างรายได้ตลาดต่างชาติเที่ยวไทย 2.4 แสนล้านบาท รวมกับตลาดไทยเที่ยวไทยฟื้นตัว ได้รับปัจจัยส่งเสริมจากเทศกาลสงกรานต์ และโครงการภาครัฐทั้งเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง ส่งผลให้รายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2565 ประมาณ 9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 6.5 แสนล้านบาทจากปีก่อน

นอกจากนี้ แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศของคนไทย ยังเพิ่มมากขึ้นจากการที่หลายประเทศเริ่มปลดล็อกเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว เช่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เกาะบาหลี อินโดนีเซีย เป็นต้น

ทั้งนี้ รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ หรือ FIT (Free Individual Traveler) มีทั้งที่เดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน และคนที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานในสถานที่ท่องเที่ยว (Workcations) โดยธนาคารได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการเงินสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ดังนี้

Advertisement

ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1.ธนาคารเปิดจุดบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกว่า 800 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องผ่าน เช่น สนามบิน ซึ่งมีทั้งบูธแลกเงิน และตู้แลกเงินต่างประเทศอัตโนมัติ รวมถึงสาขาธนาคารทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการแลกเงินต่างประเทศเช่นกัน โดยธนาคารเตรียมเปิดตัวบริการแลกเงินต่างประเทศรูปแบบใหม่ ที่สอดคล้องกับรูปแบบการท่องเที่ยววิถีใหม่ในเร็ว ๆ นี้

และ 2.สนับสนุนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก เน้นการดูแลสภาพคล่องทางการเงินให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนเพียงสำหรับดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมผลักดันการใช้แอปฯ TAGTHAi (ทักทาย) แพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยว สินค้าและบริการของผู้ประกอบการแบบครบวงจร พร้อมออกบัตรทักทายพาส (TAGTHAi pass) บัตรดิจิทัลด้านไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว (Digital pass) อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวด้วยการชำระเงินซื้อเพียงครั้งเดียว ก็สามารถเข้าถึงบริการการท่องเที่ยวที่คัดสรรอย่างดีโดยคนท้องถิ่น ทั้งบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ร้านอาหาร บริการด้านการเดินทาง สปาและสุขภาพ และมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอื่น ๆ พร้อมเปิดช่องทางบริการให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และอื่น ๆ เพิ่มศักยภาพของตนเพื่อเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวในวงกว้างผ่านแอปฯ TAGTHAi

สำหรับ กลุ่มนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวต่างประเทศ ที่บัตรใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยววิถีใหม่แบบ Cashless ได้แก่ บัตรเดบิต JOURNEY กสิกรไทย สามารถใช้จ่ายได้ทุกสกุลเงิน ไม่มีชาร์จ 2.5% ฟรีประกันการเดินทางต่างประเทศ คุ้มครองสูงสุด 1.5 ล้านบาท และบริการ YouTrip ซึ่งเป็น Multicurrency Wallet ลูกค้าสามารถแลกเงินล่วงหน้าได้ 10 สกุลเงิน ใช้จ่ายได้กว่า 150 สกุลเงิน และสามารถรูดใช้จ่ายผ่านบัตร YouTrip ได้ทั่วโลก ไม่มีชาร์จ 2.5% ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ

Advertisement

นายพิพัฒน์พงศ์ กล่าวเติมว่า แม้สถานการณ์โดยรวม มีแนวโน้มที่ดีขึ้นสำหรับภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยที่ยังส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ได้แก่ นโยบายปลอดโควิดของจีน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังไม่สามารถมาเที่ยวไทยได้อย่างปกติ สถานการณ์ในยูเครน หากรุนแรงขึ้นอาจกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากยุโรป รวมถึงการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศไทย และมาตรการในประเทศเพื่ออยู่ร่วมกับโควิด ซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image