สถานีคิดเลขที่ 12 : ปลดล็อกการเมืองแก้ฟื้นช้า

ศบค. โดยที่ปรึกษาใหญ่ หมออุดม คชินทร ระบุเหตุผลต้องปลดล็อกเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงเปิดประเทศ 1 พฤษภาคม

มาจากโควิดอยู่ในช่วงขาลง ยาแรงไม่จำเป็นอีกต่อไป

รังแต่จะทำให้ไทยบอบช้ำ เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศฟื้นช้ากว่าชาติอื่น

ต้องเร่งปลดล็อก

Advertisement

สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

ฉายภาพฟื้นตัวช้า ด้วยชุดข้อมูลตัวเลข

ระบุว่า โควิดระบาด 2020 ติดลบทั่วโลก แต่ประเทศจำนวนมาก ฟื้นตั้งแต่ปี 2021 แก้ติดลบได้เรียบร้อย

Advertisement

ขณะที่ไทย 2020 จีดีพีติดลบ 6% กว่า ปี 2021 บวก 1.6% ยังติดลบอยู่ถึง 4% กว่า

ปีนี้โตอย่างมาก 3% ต้นๆ ทั้งปียังแก้ติดลบปี 2020 ไม่ได้

เป็นที่ยอมรับกันว่า ปัจจุบันไทยเหลือเครื่องยนต์ตัวเดียว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นั่นคือการส่งออก

นอกนั้นพึ่งหวังไม่ได้

การบริโภคนั้นแผ่ว เงินเฟ้อ สินค้าแพง กำลังซื้อไม่มี ประชาชนรายได้ต่ำ การลงทุนภาครัฐหัวเชื้อสำคัญ งบประมาณไม่มากพอที่จะเป็นแรงส่ง หมุนฟันเฟืองเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้อย่างมีพัฒนาการ
และกว่าการลงทุน ผลิดอกออกผลต้องใช้เวลา

ลงทุนเวลานี้ อย่างต่ำอีก 2 ปี

ตัวที่เร็วที่สุด และกระจายรายได้ดีที่สุด คือการท่องเที่ยว

แต่การปลดล็อก เลิกขั้นตอนยุ่งยาก (ยังคงไว้ไทยแลนด์พาส) เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางท่องเที่ยว

ก็ใช่ว่าจะเป็นหลักประกัน ต่างชาติจะเดินทางเที่ยวไทยล้นหลาม ทำรายได้งดงาม

ยังมีปัจจัย ตัวแปร อีกมาก โดยเฉพาะนักเที่ยวหลักอย่างจีน

ยากจะกลับมาในอนาคตอันใกล้

เนื่องจากมาตรการด้านการเดินทาง และนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนแผ่นดินใหญ่

รัฐไทยกำลังชั่งใจจะขยายนโยบายประชานิยม คนละครึ่ง อีกเฟสหรือไม่

โดยขอประเมินก่อนว่า การเปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการ ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องหรือไม่

หากดีขึ้น ความจำเป็น ขยายโครงการก็มีน้อยลง หรืออาจไม่จำเป็น

เหตุผลแท้จริง ที่ทำให้ต้องคิดหนัก คือข้อจำกัด ด้านงบประมาณ

เครื่องมือสำคัญ บันดาลความเป็นไปเศรษฐกิจประเทศ

ไปๆ มาๆ ก็เหลือแค่ ส่งออก นำรายได้จากการส่งสินค้าขายต่างประเทศ มากระจายจุนเจือ หล่อเลี้ยงคนไทย

แต่การส่งออกก็ยังเป็นคำถาม มูลค่ามหาศาลอย่างเดือนมีนาคมสูงสุดในรอบ 30 ปีนั้น

แท้จริงไม่ใช่ของนักธุรกิจไทยอย่างเดียว มีการลงทุนที่มาจากนักลงทุนต่างประเทศด้วย

เม็ดเงินมิได้อยู่ในมือคนไทยทั้งหมด

มิพักต้องพูดถึง เครื่องยนต์ตัวเดียวจะเลี้ยงครอบครัวใหญ่ประเทศไทยได้หรือไม่

ปกติใช้ถึง 4 ตัว

อีกตัวความหวัง การท่องเที่ยวนั้นก็ยังเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ

ฉะนั้น แม้เปิดประเทศแล้ว ก็ยังมองไม่เห็นทางไทยจะฟื้น ไล่กวดทันความล่าช้ากว่าชาติอื่นๆ

เป็นชาติอื่นๆ ที่ ส่วนใหญ่เมื่อโควิดซา รัฐบาลกลาง ได้อัดฉีดเม็ดเงินมหาศาล เข้าสู่ระบบ เร่งรัดเศรษฐกิจเติบโตไว

เนื่องจากเห็นว่า หากปล่อยเติบโตตามยถากรรม

ไม่เพียงไม่พอหล่อเลี้ยงปากท้องพลเมือง หากแต่ อุตสาหกรรมที่เสื่อมทรุด อาจไปต่อไม่ได้ หากไม่มีกำลังงบประมาณมาฉุดพ้นสถานะ สุ่มเสี่ยงพังทลาย

แต่ไทย มีข้อจำกัดงบประมาณ

รายรับ ไม่พอรายจ่าย กู้มาใช้ 2 ก้อนใหญ่ 1.5 ล้านล้านบาท

เหลือจำนวนหนึ่ง พอใช้สำหรับนโยบายประชานิยม บรรเทา
เดือดร้อนเท่านั้น

ไม่มีเงินมากพอมาใส่ในระบบ สูบฉีดเลือดลมเศรษฐกิจให้ฟื้นชีพ เติบโตรวดเร็ว

ครั้นจะกู้อีก ก็ดูเหมือน ไม่มีความชอบธรรมทางการเมืองพอ

เปอร์เซ็นต์ไทยฟื้นช้า จึงส่อแววว่า จะยืดยาวออกไป

ชาวบ้านยากจนข้นแค้นต่อไป

หนทางที่อาจเป็นทางออกปลดล็อกเศรษฐกิจ คือการปลดล็อกการเมือง

จัดเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็ว เพราะไม่เพียงแต่ปีเลือกตั้งเศรษฐกิจคึกคัก

แต่รัฐบาลใหม่ ไม่ว่า “บิ๊กตู่” จะกลับมาอีกครั้งหรือใครก็ตาม

เมื่อได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน จะทำให้มีความชอบธรรมที่จะกู้-ดำเนินนโยบายใหม่ๆ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยฟื้นช้าสลบยาว

ไม่อย่างนั้น จะติดกับดัก ขยับไม่ได้เหมือนกับที่เป็นอยู่เวลานี้

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image