เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ สน.ท่าข้าม นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน พร้อมทนายความเข้าพบ พ.ต.ท.พิทักษ์ หอมทอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าข้าม เพื่อแจ้งความเอาผิด นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือจิน สามี “หนิง” ปณิตา ธรรมวัฒนะ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังนายจรินทร์ได้ทำการคอมเมนต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวของนายวิศาพัช ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายคู่กับ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก บนรถตู้ ในวันที่อัยการนัดส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องต่ออัยการจังหวัดนนทบุรี โดยเปรียบนายวิศาพัชว่าเป็นตัวเงินตัวทอง
นายวิศาพัช เปิดเผยว่ามาแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการที่นายจรินทร์ โพสต์ข้อความลงใต้ภาพในอินสตาแกรมของตน ส่วนตัวมองว่าเจตนาคงเป็นไปตามที่ชี้แจง คงตอบเจตนาแทนไม่ได้ ซึ่งหากพอใจกับข้อความคงไม่เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี เมื่อเห็นข้อความดังกล่าวก็รู้สึกว่ารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไร ทำไมกล้ามาพูดอะไรเช่นนี้ ข้อเท็จจริงก็ไม่ได้ทราบอะไรเลย รู้จักกันก็ไม่ใช่ แล้วเอาสิทธิอะไรมาพูด ส่วนกรณีของหนิงนั้น ต้องพิจารณาว่าการกระทำจะเข้าข่ายข้อกฎหมายใดบ้าง ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการไกล่เกลี่ย ส่วนค่าเสียหาย คาดว่าจะถึงหลักล้าน หรือสิบล้านบาท ซึ่งอินสตาแกรมเป็นพื้นที่ส่วนตัว ตนมีสิทธิ์ที่จะโพสต์ให้กำลังใจกระติก เนื่องจากเหตุการณ์ที่ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตก็ผ่านมานานถึง 2 เดือนแล้ว ส่วนผู้คนตามสื่อสังคมออนไลน์นั้น ก็คงไม่ทำอะไร และที่ตนถูกทัวร์ลงในสื่อสังคมออนไลน์เยอะ ก็รู้สึกสนุกไปอีกแบบ และกระติกก็คงจะแจ้งความเช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าแจ้งความข้อหาอะไร ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักกับนายจรินทร์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องคดีของแตงโม ยืนยันให้การคำเดิมทุกอย่าง ไม่มีความกังวลอะไร และคดีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไม่ทราบว่าถึงขั้นตอนใดแล้ว
ด้านทนายความ กล่าวว่าพาแซน มาแจ้งความดำเนินคดี หลังจากที่นายจรินทร์ พิมพ์ข้อความใต้ภาพอินสตาแกรมของแซน โดยระบุเกี่ยวกับบุคคลในรถตู้ 2 คน ซึ่งไม่สามารถเป็นคนอื่นไปได้ ส่งผลให้ได้รับความเสียหาย โดยการให้ความเห็นนั้น หากเป็นการติชม ที่ไม่ใช่การด่าทอ แซนก็พร้อมรับฟังครั้งนี้เป็นกรณีแรกที่จะแจ้งความเอาผิด ส่วนอีก 2 รายที่มีการพูดถึงไปก่อนหน้า อาจทำการยื่นฟ้องต่อศาลเอง เนื่องจากหากแจ้งความกับตำรวจทุกครั้ง ภาระก็อาจจะตกกับพนักงานสอบสวนมากเกินไป เรื่องใดที่ดำเนินการเองได้ ก็จะทำ เบื้องต้นแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็น กรณีตำรวจแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีแตงโม และแถลงชี้แจงกรณีนำภาพบาดแผลจากสำนักข่าวต่างประเทศใช้แถลงข่าวนั้นนายวิศาพัช ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน นายวิศาภัช กล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของแตงโม ว่าข้อเท็จจริงซักอย่างไม่มอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องการปัสสาวะนั้นไม่มีความจำเป็นที่ต้องโกหกเพื่อปกป้องคนบนเรือ แม้แตงโมจะไม่มีอาการเมา ก็กล้าปัสสาวะ ซึ่งตนก็ไม่คิกว่าจะพลัดตก และทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ส่วนผู้ที่ครหาว่าตนยังโกหกอยู่ ขอให้พักการกระทำไม่ทำให้เกิดประโยชน์ ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ก็คงต้องพิจารณาร่วมกับทนายความ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีใครอยากให้เกิด ทุกคนล้วนรู้สึกตกใจ ขณะนั้นทุกคนทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครอยากให้เพื่อนเสีย ส่วนเรื่องการฆาตกรรมก็ขอให้หยุดพูด ส่วนประเด็นที่รู้จักกับคนใหญ่คนโต ก็ต้องไปถามว่าเอามาจากไหน ส่วนภาพที่เป็นประเด็นนั้นเพียงแค่ให้กำลังใจกัน อยากให้คดีจบไวๆ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับคนอื่นบ้าง โดยทราบว่ากระติกจะฟ้องผู้ที่กล่าวหา แต่คนอื่นนั้นตนไม่ทราบ ทั้งนี้ อยากบอกกับสังคมว่าขอให้เพลาเรื่องด่าว่า เพราะไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด หากใครมีหลักฐานก็ขอให้ออกมา
นายวิศาภัช กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่แตงโมปัสสาวะนั้นไม่ได้โกหก จะโกหกไปเพื่ออะไร ส่วนจะปัสสาวะอย่างไรนั้นก็ไม่ได้ไปนั่งจ้องเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้น พวกตนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาร่างแตงโมแล้ว โดยทุกคนอยู่ในที่เกิดเหตุกันชั่วขณะหนึ่ง แต่ตกใจเพราะมีสื่อมวลชน จึงออกไปจากที่เกิดเหตุหลังจากนั้น ซึ่งทุกคนไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้
