สถานีคิดเลขที่ 12 : ปั่นหู-หัวปั่น

นอกจาก ปิดหู ไม่ฟัง เรื่อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยากให้สื่อปิดปาก ด้วยการแสดงท่าทีหงุดหงิด “เมื่อไหร่จะเลิกถามข่าว พล.อ.ประวิตร” และยังท้าทาย ใครล้มได้ก็มาล้มเถอะ

ถามว่าท่าทีดังกล่าว สะท้อนอะไร

สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์เชื่อมั่นในตัวของ พล.อ.ประวิตร อย่างเต็มเปี่ยมว่าจะยืนหยัดเคียงข้างตนเองอย่างมั่นคง

Advertisement

จึงไม่อยากให้มีใครมา “ปั่นหู” ในเรื่องที่ไม่จริง

หรือสะท้อนว่า ที่ไม่อยากฟัง หรือไม่อยากให้ถาม เพราะมันเข้าไป “ปั่นหู” ให้ “หัวปั่น” ไม่เชื่อมั่นในตัว “พี่ป้อม” ยิ่งขึ้น

พิจารณาดูแล้ว ดูคนส่วนใหญ่จะเชื่อในประการหลังมากกว่า

Advertisement

ซึ่ง ก็เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น และกำลังจะดำเนินต่อไปในทางการเมืองนั้น

เส้นทางแห่งอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะแคบลงทุกทีๆ และเผลอๆ อาจเจอทางตัน จนต้องยุติการ “ไปต่อ” ด้วย

ตรงกันข้าม เส้นทางแห่งอำนาจของ พล.อ.ประวิตร กลับดูจะเปิดกว้าง มีช่องมีเงื่อนไข จนอาจต้อง “จำใจ” แบกรับภาระเพื่อชาติ แม้จะบอกว่าสุขภาพร่างกายไม่ไหวก็ตาม

ด้วยโอกาสที่เปิดกว้างนั้นเราจึงได้เห็นความพยายามที่จะตอบสนอง ไม่สร้างเงื่อนไขปิดกั้นให้เสียโอกาส

เช่น พรรคพลังประชารัฐจะไม่พูดหรือ “ผูกมัด” มีมติที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว

ถึงขนาด พล.อ.ประวิตร ยังเผลอหลุดปากพูดเรื่อง ต้องมีชื่อ “สำรอง” ออกมา

ซึ่งแม้จะออกมาปฏิเสธในภายหลังว่า มิได้หมายความว่าจะต้องมีชื่อคนอื่นประกบไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ก็ตาม

แต่เรื่องก็ไม่ได้จบ แถมยังบานปลายออกไป คือมิใช่แค่เรื่องรายชื่อสำรองเท่านั้น หากแต่พัฒนาไปเป็นเรื่อง นายกฯสำรอง เลยทีเดียว

และไม่ใช่เรื่องลอยๆ เสียด้วย เพราะฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และพรรคเศรษฐกิจไทย มีการชี้ช่อง ที่มาของนายกฯสำรองด้วยว่า จะมาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรค 2

แม้ว่า นายวิษณุ เครืองาม มือกฎหมายของรัฐบาล จะมาฉายภาพให้เห็นว่า นายกฯที่จะมาตามมาตรา 272 วรรค 2 ไม่ใช่เรื่องง่าย มีขั้นตอน และต้องใช้เสียงมากมายในรัฐสภาก็ตาม

แต่ความยากดังกล่าว คนที่ร่างรัฐธรรมนูญเขาแลเห็นอยู่แล้วว่าอาจจำเป็นต้องใช้ จึงเจาะรูเอาไว้ให้ ซึ่งถึงจะยากอย่างที่ว่า แต่ในทางการเมืองเรื่องที่ว่ายากแสนยากก็มีรูให้เล็ดให้รอดไปได้ทุกที

ในกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เจอทางตัน ไปต่อไม่รอด อย่างที่ทราบกันว่า ผู้ที่รักษาการนายกฯหมายเลขหนึ่ง ก็คือ พล.อ.ประวิตร

ซึ่งแม้จะไม่กี่วัน แต่นายกฯรักษาการนี่แหละจะมีฤทธิ์เดชไม่น้อย

และมีโอกาสสูงที่จะทำให้สถานการณ์ไหลไปในทางต้องมีคนนอก ตามมาตรา 272 วรรค 2 และถึงตอนนั้นเสียงในสภาผู้แทนราษฎร และในวุฒิสภา ก็อาจจะมีการบริหารจัดการ ให้เอื้อต่อคนที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร อย่าง “ง่ายดาย” ก็เป็นไปได้

แม้ว่า นายกฯคนนอกจะมีเวลาเป็นรัฐบาลไม่นาน

แต่การได้นายกฯที่ชื่อ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯคุมการเลือกตั้งย่อมจะทำให้หลายคนแฮปปี้

และภาพฝันอันแฮปปี้นี้ จึงทำให้ตอนนี้ “หลายคน” ที่ว่า ต่างขมีขมันแปรศัตรูให้กลายเป็นมิตรเขย่าอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ กันทุกวัน

จึงไม่แปลกที่ “คนถูกเขย่า” ไม่อยากฟัง ไม่อยากให้ถาม ไม่อยากถูก “ปั่นหู” จน “หัวปั่น”

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image