การต่อสู้ของชาวไอร์แลนด์ต่ออังกฤษกว่า800ปีกำลังพลิกโฉมหน้าใหม่

ไอร์แลนด์ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันตกถัดมาจากเกาะอังกฤษ พื้นที่ประมาณ 5 ใน 6 ส่วนของเกาะไอร์แลนด์เป็นที่ตั้งของประเทศไอร์แลนด์ ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 1 ใน 6 ส่วนด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ เป็นที่ตั้งของไอร์แลนด์เหนือของอังกฤษ ซึ่งชาวเกาะไอร์แลนด์นี้ต้องต่อสู้เพื่อเอกราชต่ออังกฤษมากว่า 800 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นใน พ.ศ.1714 (ก่อนก่อตั้งกรุงสุโขทัย) พระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ ได้ยกทัพบุกเกาะไอร์แลนด์ ทำให้ไอร์แลนด์อยู่ภายใต้อำนาจของอังกฤษนับแต่นั้น

ชาวไอร์แลนด์ทำการต่อต้านการรุกรานและก่อกบฏต่ออังกฤษอยู่เนืองๆ ทำให้อังกฤษต้องส่งกำลังเข้าไปปราบปรามครั้งใหญ่ที่ต้องใช้เวลานานกว่า 60 ปี เลยทีเดียวจนถึงสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ จึงสามารถปราบกบฏได้ราบคาบก็พอดีกับเป็นช่วงเวลาของการปฏิรูปทางศาสนาครั้งใหญ่ในยุโรปตะวันตก โดยมีชาวคริสต์ถอนตัวออกจากคริสตจักรคาทอลิกที่กรุงโรมเป็นจำนวนมากเพื่อตั้งนิกายใหม่ๆ เรียกรวมว่าพวกโปรเตสแตนต์ ในตอนต้นพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูปศาสนา แต่เมื่อคริสตจักรคาทอลิกไม่ยอมประกาศให้การอภิเษกสมรสของพระองค์กับ ราชินีแคทเธอรีน ก่อนหน้านั้นเป็นโมฆะ ทั้งๆ ที่เป็นการสมรสที่ถูกต้องแล้ว (เนื่องจากเฮนรีที่ 8 ต้องการอภิเษกสมรสใหม่กับแอนน์ โบลีน) พระองค์จึงตั้งนิกายโปรเตสแตนต์ใหม่ขึ้นมา เรียกว่า “คริสตจักรแห่งอังกฤษ” และดำรงตำแหน่งประมุขด้วยพระองค์เอง จากนั้นก็ประกาศให้ไอร์แลนด์เป็นชาติที่นับถือคริสตจักรแห่งอังกฤษด้วยเหมือนเช่นกับชาวอังกฤษทั้งหมด แต่ในเวลานั้นไอร์แลนด์เป็นชาติที่นับถือคาทอลิกอย่างเคร่งครัดเข้มแข็ง เมื่อขุนนางหรือผู้รับราชการไม่เปลี่ยนนิกายก็ถูกถอดจากตำแหน่ง ส่งผลให้ความแตกต่างของนิกายศาสนาเป็นอีกปัจจัยหลักของความขัดแย้ง

คำประกาศของอังกฤษไม่ค่อยได้ผล ชาวไอร์แลนด์ส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยนจากคาทอลิกเป็นนิกายอังกฤษเพื่อตำแหน่งการงาน ทำให้อังกฤษต้องแต่งตั้งชาวอังกฤษและชาวสก๊อตเข้าไปแทนพร้อมทั้งจัดสรรที่ดินให้กับพวกโปรเตสแตนต์เหล่านี้ด้วย ซึ่งพวกที่มาใหม่นี้ส่วนมากตั้งถิ่นฐานในไอร์แลนด์ภาคเหนือเป็น 1 ใน 4 ภูมิภาคของเกาะไอร์แลนด์ อยู่ทางด้านเหนือ ใกล้เกาะอังกฤษมากที่สุด ไอร์แลนด์ตอนเหนือจึงกลายเป็นฐานของโปรเตสแตนต์ในดินแดนคาทอลิก ซึ่งฝ่ายไอร์แลนด์คาทอลิกมองว่าเป็นชาวต่างชาติผู้บุกรุก ก่อเกิดเป็นลัทธิชาตินิยมและความขัดแย้งทางศาสนา ครั้นภายในไม่กี่ช่วงอายุคน ลูกหลานของชาวโปรเตสแตนต์ที่บรรพบุรุษย้ายถิ่นฐานมาจากเกาะอังกฤษก็ถือว่าพวกเขาเป็นชาวไอร์แลนด์เหมือนเช่นชาวไอร์แลนด์ที่อยู่มาก่อนทั้งยังได้พึ่งพาการปกป้องคุ้มกันจากอังกฤษสำหรับสิทธิพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะสิทธิในที่ดิน ในขณะที่ความต้องการทรัพยากรของฝ่ายคาทอลิกมีมากกว่า เพราะพวกเขาเป็นประชากรหลักและอยู่มาก่อน

การก่อกบฏในไอร์แลนด์เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยปี ทุกครั้งฝ่ายอังกฤษปราบได้หมด แต่การกบฏครั้งสำคัญที่สุดคือ “การลุกฮือเทศกาลอีสเตอร์” ในเดือนเมษายน พ.ศ.2459 ในขณะที่อังกฤษกำลังทำสงครามโลกครั้งที่ 1 อยู่ กบฏชาวไอร์แลนด์รวมตัวกันหลายกลุ่มก้อน เข้ายึดอาคารสำคัญๆ ในกรุงดับลิน และประกาศตั้งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ขึ้น อังกฤษส่งเรือปืนเข้ามาพร้อมทหารข้ามทะเลมา 16,000 นาย พร้อมปืนใหญ่ ฝ่ายกองกำลังไอริชต้านอยู่ได้ไม่กี่วันก็ถูกกองทัพอังกฤษ และตำรวจไอร์แลนด์ปราบกบฏ
ลงได้ กบฏชาวไอริชหลายพันกลายเป็นนักโทษผู้ก่อการจำนวน 16 คน ถูกประหารชีวิต

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การลุกฮือครั้งนี้ได้ปลุกให้ชาวไอร์แลนด์รู้สึกได้ว่าควรใช้การเมืองการเลือกตั้งมานำหน้าการต่อต้านดีกว่า เพราะการต่อสู้ด้วยความเป็นชาตินิยมที่แบบก่อการกบฏก่อนหน้านั้นไม่ได้ผล ดังนั้น การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคม พ.ศ.2461 พรรคชาตินิยมไอร์แลนด์ คือ “พรรคชินเฟน” (แปลว่า “พวกเราเอง”) ชนะอย่างถล่มทลาย ได้จำนวน ส.ส. 73 ที่นั่ง จากทั้งหมด 105 ที่นั่ง ในสภาไอร์แลนด์ (ทั้งหมดเข้าไปเป็นผู้แทนในรัฐสภาอังกฤษที่มี ส.ส.รวม 707 คนด้วย)

ดังนั้น การประชุมสภาไอร์แลนด์ครั้งแรกเดือนมกราคม พ.ศ.2462 จึงประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ และตั้งรัฐบาลแยกออกมา จึงได้นำไปสู่ “สงครามแองโกล-ไอริช” ระหว่าง พ.ศ.2462-2464 ซึ่งไอร์แลนด์เน้นการรบแบบกองโจรทำให้ฝ่ายอังกฤษสูญเสียไม่น้อยประกอบกับอังกฤษก็ไม่อยากจะรบยืดเยื้อต่อไปเพราะอ่อนล้าจากสงครามโลกครั้งที่ 1 มาพอแล้ว จึงยอมแบ่งเกาะไอร์แลนด์ซึ่งประกอบด้วย 32 มณฑลออกเป็นไอร์แลนด์ใต้ได้ไป 26 มณฑล ส่วนอีก 6 มณฑลให้เป็นไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นโปรเตสแตนต์นั้นยังคงอยู่กับอังกฤษซึ่งก็นำความสงบมาสู่เกาะไอร์แลนด์บ้างกว่า 40 ปี จนกระทั่งถึง พ.ศ.2512 ก็เกิด “ขบวนการไออาร์เอ” ปฏิบัติการก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือ โดยได้รับการสนับสนุนหลักๆ จากชาวไอร์แลนด์ในสหรัฐอเมริกาและจากประเทศลิเบียด้วยการซุ่มโจมตีด้วยอาวุธหนักและก่อจลาจลในไอร์แลนด์เหนือ อีกทั้งก่อวินาศกรรมมุ่งทำลายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของอังกฤษบนเกาะบริเตนและภาคพื้นทวีปยุโรปร่วม 30 ปี ก่อนจะประกาศหยุดยิงใน พ.ศ.2540 โดยพรรคชินเฟน ซึ่งเป็นปีกการเมืองของพวกก่อการร้ายนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในการเจรจาและลงเลือกตั้งในไอร์แลนด์เหนือได้

ครับ ! ในที่สุดพรรคชินเฟนของไอร์แลนด์เหนือเพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่รอคอยมา 25 ปี ขอแสดงความยินดีกับพรรค “พรรคพวกเราเอง” ด้วยครับ

Advertisement

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image