บลูบิค ปลื้มไตรมาสแรก รายได้-กำไร-แบ็คล็อก นิวไฮ ปรับเพิ่มเป้าโตเกิน70%

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เปิดเผยว่า บริษัททำนิวไฮรายได้ กำไร และแบ็คล็อก ในไตรมาสแรก2565 โดยมีรายได้ 111.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% กำไรสุทธิ 28.64 ล้านบาท เติบโต 132%ทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แบ็คล็อกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 458 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 247 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทปรับประมาณการการเติบโตปี 2565 คาดไม่ต่ำกว่า 70% เพิ่มขึ้นจากเดิมคาดไว้ 50% เนื่องจากผลประกอบการบริษัทเติบโต ตั้งแต่ไตรมาสแรก ทั้งรายได้ กำไรสุทธิ และมูลค่าแบ็คล็อก ผนวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง จากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 การปลดล็อคการเดินทางเข้าและออกของหลายประเทศ ส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในไตรมสแรกได้บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี คงเป็นบริการหลักในการผลักดันรายได้ให้เติบโตก้าวกระโดด โดยมีรายได้ 69.43 ล้านบาท ตามด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ มีรายได้ 28.78 ล้านบาท บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ ที่สร้างรายได้ 7.76 ล้านบาท และบริการที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง มีรายได้ 5.37 ล้านบาท ส่วนรายได้จากงานต่างประเทศมีอยู่ที่ 23.53 ล้านบาท ยังมีส่วนแบ่งกำไรอีก 6.60 ล้านบาท จากบริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT) บริษัทร่วมทุนระหว่าง บลูบิค และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) ซึ่งอัตรากำไรสุทธิของ ออร์บิท ดิจิทัล นั้นสูงขึ้น เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอในไตรมาสที่ผ่านมา และในส่วนของบลูบิคนั้นคาดว่าได้รับอนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี ช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้

“อุตสาหกรรมเทคโนโลยียังอยู่ในช่วงขาขึ้น อีกทั้งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูงทยอยเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านบริการแบบครบวงจรและตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี บริษัทจึงจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนกว่า 80 ล้าน สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ในการขยายบริการที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท รวมถึงกิจการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต” นายพชร กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามแผนการเพิ่มจำนวนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยในปีนี้มีแผนสรรหาบุคลากรเพิ่มอีกกว่า 100 ตำแหน่ง อาทิ บุคลากรในสายงานพัฒนาระบบซอฟท์แวร์ สายงานวิศวกรข้อมูลและวิทยาศาสตร์ข้อมูล และสายงาน Digital Product Management เพื่อรองรับการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image