ไปรษณีย์เก๊ร่อนอีเมล์แจ้งพัสดุตกค้างหวังต้มเหยื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว เผยส่งหว่านกระทำการล่อลวงผู้คนไปทั่วในสังคมทุกระดับ หลังวิธีการแบบเก่าแนวเดิม ถูกทางเจ้าหน้าที่ผุดศูนย์ PCT อุดช่องโหว่ให้ ปชช.เข้าถึงวิธีการร้องทุกข์ผ่านทางมือถือ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ภายในนิคมอุตสาหกรรมย่านรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-จ.ชลบุรี ว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ตนเองได้รับอีเมล์ ที่อ้างว่าเป็นอีเมล์ที่ส่งมาจาก “ไปรษณีย์ไทย” หรือ Thailand Post โดยมีการใช้ตราสัญลักษณ์ กระดาษพับรูปจรวดปลายแหลม (ซองบิน) ซึ่งเป็นแบรนด์โลโก้ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด
พร้อมระบุข้อความหัวข้อ (Subject) ว่า “ไปรษณีย์ไทย : พัสดุของคุณรออยู่” จากนั้นมีข้อความว่า “เรียนผู้ใช้ เราต้องการแจ้งให้คุณทราบว่าพัสดุของคุณถูกระงับเนื่องจากที่อยู่ที่ไม่ถูกต้อง เราไม่สามารถจัดส่งพัสดุของคุณได้จนกว่าคุณจะยืนยันรายละเอียดการจัดส่งของคุณ” จากนั้นมีชุดข้อความ “คลิกที่นี่เพื่อยืนยันที่อยู่ของคุณ” ให้กด และต่อด้วยข้อความ “เมื่อคุณอัพเดตรายละเอียดของคุณ เราจะส่งพัสดุของคุณในวันทำการถัดไป ไปรษณีย์ไทย ขอบคุณค่ะ”
เมื่อพิจารณาดูจากอีเมล์ต้นทางที่ส่งมาจากอีเมล์ที่ใช้ชื่อว่า [email protected] ยังมองเห็นได้ว่ามีข้อพิรุธ และไม่น่าจะใช่อีเมล์ที่ถูกส่งมาจากทางอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ของสำนักงานไปรษณีย์ไทยอีกด้วย จึงได้นำเรื่องดังกล่าวนี้ออกมาเผยแพร่เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทำการตีแผ่ให้แก่ผู้คนในสังคมทั่วไปได้รับทราบ ถึงพัฒนาการของกลุ่มมิจฉาชีพที่กระทำการในลักษณะนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะเป็นนักต้มตุ๋นหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มเดิม ที่อาจมีการปรับเปลี่ยนวิธีการในการล่อลวงเหยื่อในรูปแบบใหม่
เพื่อใช้ในการต้มตุ๋นหลอกลวงเหยื่อผู้หลงเชื่อ ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป และนำไปใช้ในการกระทำการหลอกลวงเหยื่อตามวิธีการของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ที่อาจมีการวางแผนเตรียมการต้มตุ๋นไว้ในขั้นต่อไป จึงได้นำมาเปิดเผยสู่สังคมเพื่อให้ผู้คนได้รับทราบโดยทั่วกัน ถึงวิธีการล่อลวงในรูปแบบใหม่ล่าสุดนี้ต่อไป ขณะเดียวยังพบว่าการส่งอีเมล์แจ้งพัสดุตกค้างในลักษณะนี้ ยังมีอีกหลายราย ที่ได้รับอีเมล์จากไปรษณีย์เก๊ แจ้งเตือนเข้ามา
ทั้งที่บ้างคนนั้นยังไม่เคยได้ใช้บริการในระบบการขนส่งพัสดุจากทางไปรษณีย์ไทยเลย นอกจากจดหมายธรรมดาทั่วไปและยังไม่บ่อยครั้งนัก เนื่องจากปัจจุบันระบบการสื่อสารได้เปลี่ยนไปใช้การส่งข้อความผ่านทางการแชตในสังคมออนไลน์กันเกือบหมดแล้ว และหากจะมีการส่งสิ่งของมาให้แก่กันนั้น จะมีการแจ้งบอกกล่าวกันก่อนล่วงหน้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นแชตถึงกันก่อนทุกครั้ง
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.65 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเปิดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT (Police Cyber Taskforce) ซึ่งนำโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่ได้ร่วมมือกันกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ในการเปิดช่องทางให้แก่ประชาชนได้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาต้มตุ๋นหลอกลวง
ผ่านทางช่องทางที่กำหนดไว้ทั้ง 3 เครือข่าย ประกอบด้วย เอไอเอส ให้แจ้งไปยังหมายเลข 1185 ทรู ให้แจ้งที่หมายเลข 9777 และดีแทค แจ้งมายังหมายเลข 1678 เพื่อตัดการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยทุกครั้งที่มิจฉาชีพโทรศัพท์ หรือส่งข้อความเข้ามา ให้ประชาชนแจ้งหมายเลขที่โทรเข้ามาสู่ระบบเครือข่ายทั้ง 3 ค่าย เพื่อตรวจสอบและบล็อกเบอร์ดังกล่าว จากนั้นจะส่งต่อไปยังศูนย์ PCT เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไปภายใน 72 ชม.
จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรูปแบบเก่าหมดหนทางในการล่อลวงเหยื่อแบบดั้งเดิมอีกต่อไป หลังจากถูกทางเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการนี้ตอบโต้และเอาจริงเอาจัง จากข้อมูลที่ประชาชนได้แจ้งเบาะแสเข้าไป และได้หันมาคิดค้นหาวิธีการต้มตุ๋นในรูปใหม่ๆ ในการล่อลวงเหยื่อต่อไปอีก โดยในครั้งนั้นทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้เพิ่มช่องทางให้ ปชช. สามารถแจ้งเบาะแสไปยังที่สายด่วน บช.สอท. 1441 และศูนย์ PCT ที่หมายเลข 08-1866-3000 ได้ตลอด 24 ชม. รวมถึงการแจ้งความแบบออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.com ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
