เตือน 5 อำเภอ พบผู้ป่วยมาลาเรียโนวไซ
วิถีชีวิตเปลี่ยน คนเข้าป่า ลิงป่าเข้าชุมชน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีผู้ป่วยโรคมาลาเรียโนวไซเพิ่มขึ้น ในขณะที่ฝ่ายสาธารณสุขสงขลายืนยันพื้นที่ที่มีลิงในชุมชนในจังหวัดสงขลา ไม่พบว่ามียุงก้นปล่องในพื้นที่ มีความเสี่ยงน้อย เตรียมร่วมกับสำนักบริหารฯที่ 6 เก็บตัวอย่างเลือดลิงไปตรวจหาเชื้อในอำเภอเมืองสงขลา สัปดาห์หน้า
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ สถานการณ์โรคมาลาเรีย โนวไซ ในจังหวัดสงขลา ในขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้เร่งรณรงค์แจ้งเตือนให้กับผู้ที่มีความเสี่ยง คือกลุ่มที่ต้องเดินทางไปหาของป่า ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ รัตภูมิ สะบ้าย้อย เทพา นาทวี และสะเดา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมาลาเรียโนวไซ โดยมีรายงานว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่รอยต่อกับป่าเดินทางไปหาของป่ามากขึ้น ในขณะที่ลิงป่า ก็เข้ามาหาอาหารใกล้ชุมชนมากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ในปีนี้มีผู้ป่วยมากขึ้นกว่าช่วงปกติ
นายแพทย์ปพน ดีไชยเศรษฐ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ระบุว่าสำหรับลิงที่อาศัยอยู่ในชุมชน โดยเฉพาะในอำเภอเมืองสงขลา อย่างที่เขาตังกวน และในพื้นที่เกาะยอ จากการตรวจยุงในพื้นที่นั้นไม่พบว่ามีเชื้อมาลาเรียโนวไซแต่อย่างใด ทำให้ประชาชนคลายความกังวลได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือยังต้องมีการป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด นอกจากจะป้องกันมาลาเรียโนวไซแล้วก็จะสามารถป้องกันโรคอื่นๆ ที่มียุงเป็นพาหะนำเชื้อได้อีกด้วย
สำหรับในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยมาลาเรียโนวไซเสียชีวิต 1 รายนั้น เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ทำการสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างเลือดกลุ่มเสี่ยงไปตรวจสอบ รวมถึงตัวอย่างยุงในพื้นที่ไม่พบว่าไม่มีเชื้อมาลาเรียโนวไซในชุมชนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา เตรียมร่วมกับฝ่ายสาธารณสุขและหน่วยอื่นๆ ในพื้นที่เข้าดำเนินการสุ่มตรวจหาเชื้อมาลาเรียโนวไซและโรคอื่นๆ ในลิงธรรมชาติ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา ในสัปดาห์หน้า
