ในบรรดาค่ายรถหรู เบนท์ลีย์ถือว่าเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ล่าสุดเบนท์ลีย์ประกาศ
เปิดรุ่นใหม่ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด (New Flying Spur Hybrid) ถือเป็นอัครยนตรกรรมแกรนด์ทัวริ่งแบบไฮบริด รุ่นที่สอง เบนท์ลีย์การันตีว่าให้เป็นอัครยนตรกรรม สปอร์ตซีดานทรงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยมีมาของเบนท์ลีย์ มีตัวเลขอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยเพียง 75 กรัมต่อกิโลเมตร รับรองโดยมาตรฐาน WLTP
การเปิดตัวของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด ยนตรกรรม เบนท์ลีย์ไฮบริดครั้งแรก เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นว่า
เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนแบบครบวงจร พร้อมรับคำสั่งจองในสหราชอาณาจักร ยุโรป และเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ภายในปี 2567
ก่อนการเปิดตัวอัครยนตรกรรมไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (BEV) รุ่นแรกของเบนท์ลีย์ในปี 2568 โดยมีแผนจะ
เปลี่ยนสู่การผลิตอัครยนตรกรรมไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ (BEV) แบบเต็มรูปแบบทั้งหมดภายในปี 2573
ฟลายอิ้ง สเปอร์ ต้องการทำให้เห็นว่าเครื่องยนต์แบบไฮบริดไม่ได้ลดทอนความหรูหราหรือประสิทธิภาพแต่อย่างใด ด้วยการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า มาพร้อมกับความ
เงียบสงบในทุกโหมดของการขับขี่
การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงและมอเตอร์ไฟฟ้า (E-Motor) ขั้นสูง มอบความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการขับขี่ เพื่อการตอบสนองและประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเช่นเดียวกับเครื่องยนต์แบบ W12 และ V8
ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ระบบส่งกำลังใหม่ รวมเอาเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ขนาด 2.9 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้าขั้นสูง ถ่ายทอดพละกำลังกว่า 536 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้นกว่า
95 แรงม้า เมื่อเทียบกับ เบนท์ลีย์ เบนเทกา ไฮบริด ทำให้ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด กลายเป็นเบนท์ลีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กม. เมื่อเติมเชื้อเพลิงเต็มถัง
ด้วยพละกำลังมหาศาล แรงบิด และการตอบสนองของคันเร่งรวดเร็วของเครื่องยนต์รุ่นไฮบริด แตกต่างจาก
ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 เพียงเล็กน้อย ให้อัตราเร่งที่ 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4.3 วินาที ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังคงสมรรถนะการขับขี่ที่ดี
มอเตอร์ไฟฟ้า (E-motor) มอบพลังงานจากแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 18.0 kWh สามารถชาร์จพลังงานได้ 100% ภายในระยะเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงครึ่ง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลงพลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง เพื่อจ่ายให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเสริมเข้ากับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้า 12v ของรถยนต์
การตกแต่งภายในของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเบนท์ลีย์ในการสรรค์สร้างห้องโดยสารทันสมัย หรูหรา และนวัตกรรมลูกค้าสามารถเลือกเฉดสีของวัสดุหนังได้กว่า 15 เฉดสี (5 เฉดสีมาตรฐาน และ 10 เฉดสีพิเศษ) และรูปแบบของไม้วีเนียร์ หลากหลายกว่า 8 รูปแบบ เพื่อการรังสรรค์การออกแบบเฉพาะตัว ฝีเย็บและโลโก้ สามารถระบุรูปแบบของการเล่นสีที่ต้องการ เช่นเดียวกับฝีเย็บตัดกันบนเบาะโดยสาร ชวนให้หวนระลึกถึง ฟลายอิ้ง สเปอร์ รุ่นดั้งเดิมจากปี 2493
การรังสรรค์จากความคลาสสิกและงานฝีมือ นำเสนอการออกแบบแบบร่วมสมัย อาทิ การออกแบบรูปทรงเพชรแบบ 3 มิติบนแผงหนัง และฝีเย็บรูปทรงเพชรบนเบาะโดยสาร รวมอยู่ในออปชั่น มุลลิเนอร์ ไดรฟ์วิ่ง สเปกซิฟิเคชั่น (Mulliner Driving Specification)
ลูกค้าสามารถระบุเฉดสีเฉพาะตัวจากเฉดสีภายนอกเพิ่มเติมอีกกว่า 60 เฉดสี รวมถึงเฉดสีจาก มุลลิเนอร์ (Mulliner) และการออกแบบตามความต้องการของลูกค้า มากไปกว่านั้น ออปชั่น แบล๊กไลน์ สเปกซิฟิเคชั่น (Blackline Specification) ยังนำเสนอการตกแต่งภายนอกแบบร่วมสมัยอย่าง ฟลายอิ้ง บี (Flying B) เรืองแสงสีดำสไตล์สปอร์ต
การเปิดตัวของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด เป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของเบนท์ลีย์บนเส้นทางของกลยุทธ์ บียอนด์ ฮันเดรต (Beyond100) สู่การเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูที่ยั่งยืนที่สุดของโลก
สำหรับประเทศไทย เอเอเอสฯ ผู้แทนจำหน่ายเบนท์ลีย์ ตั้งราคาเริ่มต้น เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด ใหม่ ที่ 14.2 ล้านบาท
เป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้ากำลังซื้อสูง
นายพล
