จับตีนแมวแสบลักถังแก๊ส พระเครื่อง มีด ยันนกเขา สารภาพส่วนใหญ่เลือกร้านข้างทาง
วันที่ 14 มิ.ย. พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สส. และฝ่ายสืบสวนร่วมจับกุม นายณัฐวุฒิหรือบอล สะหะ อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้างก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 2 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง พร้อมของกลางถังแก๊สจำนวน 3 ถัง ถังแก๊สปิกนิก 1 ถัง เครื่องช่างน้ำหนัก 1 เครื่อง นกเขาจำนวน 5 ตัว พระเครื่องอีกหลายองค์ เราเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีดทำครัวและของกลางอื่นๆ รวมหลายรายการ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณตลาดนัดชินตา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเกิดเหตุมีคนร้ายเอากล่องกระดาษปิดหน้าเข้าลักทรัพย์ภายร้านหมูย่างเจ๊อ้อย และร้านค้าใกล้เคียงอีกประมาณ 3 ร้าน บริเวณถนนตรัง-พัทลุง ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ในช่วง 01.00 น. ของวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงจนสามารถทราบข้อมูลคนร้ายได้เบื้องต้น ก่อนพบหลักฐานว่านายณัฐวุฒิ เป็นผู้ก่อเหตุ จึงวางแผนจับกุม ต่อมาผู้ต้องหามีการประกาศขายเครื่องปิ้งขนมปังในราคา 300 บาท ทางชุดจับกุมจึงทำการสอบถามรายหนึ่งพบว่าเป็นของที่ถูกลักขโมยไป จึงให้สายลับทำการล่อซื้อและมีการนัดส่งของที่ตลาดนัดชินตา เมื่อนายณัฐวุฒิมาถึง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ในที่สุด
จากการสอบสวนนายณัฐวุฒิ ให้การรับสารภาพ โดยจะใช้เวลาช่วงกลางคืนในการขี่จักรยานยนต์ตระเวนออกลักทรัพย์แต่จะเน้นร้านค้าริมถนน เมื่อลักของเสร็จก็จะนำของออกไปเก็บไว้ที่บ้าน ส่วนนกเขาที่มีก็ไปลักมาเลี้ยงเองเพราะเป็นคนชอบนกเขา ก่อนหน้านี้ก็ทำงานรับจ้างก่อสร้าง แต่ตกงานมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยของกลางตนจะให้ภรรยาอายุ 65 ปี เป็นคนไปขาย เงินที่ได้ก็จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้วก็ผ่อนมือถือ
ขณะเดียวกันหลังการจับกุมนางชลนิชา ยอดเพชร อายุ 54 ปี เจ้าของร้านหมูย่างเจ๊อ้อย 1 ในผู้เสียหายได้เดินทางมาดูของกลาง เมื่อมาถึงนายณัฐวุฒิได้ยกมือไหว้ขอโทษนางชลนิชา ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายเคยให้ข้าวให้น้ำและช่วยเหลือมาก่อน พร้อมทั้งพูดว่าทีหลังอย่าทำแล้วนะ จากนั้นได้เดินดูของกลางก็พบของที่หายจากร้านทั้งตาชั่ง เราเตอร์ มีดและเขียงที่ใช้สับหมูย่าง
นางชลนิชาเผยความรู้สึกว่า ทีแรกคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้เพราะว่าผู้ต้องหามีการเอากล่องกระดาษมาปกปิดหน้าตา ซึ่งความเสียหายที่ร้านก็ได้ซ่อมฝ้าร้านที่คนร้ายทุบเข้ามา และมีการติดกล้องวงจรปิดใหม่แล้ว ความเสียหายเป็นเงินเกือบหมื่นบาท การที่ตำรวจจับคนร้ายได้ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากและทางร้านก็เฝ้าระวังมากขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง เผยว่า การจับกุมครั้งนี้ตามที่เป็นข่าวที่มีคนร้ายไปบุกลักทรัพย์ภายในร้านค้าในเขตพื้นที่รอบนอกเทศบาลนครตรัง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน ที่คอยให้ข้อมูล จนทำให้เจ้าที่สามารถจับ ผู้ต้องหาได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและสมัครใจที่จะนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดก่อเหตุ จนสามารถยึดของกลางมาได้หลายรายการ เหตุอาชญากรรมส่วนใหญ่ระยะหลังจะไม่เกิดในพื้นที่เทศบาล จะเกิดในพื้นที่รอบนอก เนื่องจากนโยบาย Smart Safety Zone 4.0 ของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ทาง สภ.เมืองตรังดำเนินการอยู่ และเตรียมจะขยายไปพื้นที่รอบนอกเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้มักก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมืองตรัง และ อ.นาโยง โดยส่วนใหญ่จะเลือกร้านค้าริมทาง โดยจะก่อเหตุลักทรัพย์ 5 วัน หยุด 2 วัน ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์เมื่อปี 2552 ล่าสุด เพิ่งนำถังแก๊สไปขายได้เงินมา 700 บาท และนกรงหัวจุก 3 ตัว ขายตัวละ 400 บาท นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังมีนกเขานกเขาเปล้า ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ไว้ในครอบครอง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการประสาน บก.ปทส.ต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนภรรยาผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ขณะเดียวกันตำรวจฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายรายนี้ลักทรัพย์สามารถมาตรวจดูของกลางที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้
