กรมประมง จับมือ 32 ชุมชนอนุรักษ์ เตรียมเพิ่มประชากร ‘ปลาไทย’  30 ล้านตัว ลงสู่ลำน้ำก่ำ นครพนม

กรมประมง จับมือ 32 ชุมชนอนุรักษ์ เตรียมเพิ่มประชากร ‘ปลาไทย’ 30 ล้านตัว ลงสู่ลำน้ำก่ำ นครพนม

วันที่ 27 มิถุนายน ที่บ้านปากบัง ตำบลพิมาน อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประมงร่วมอาสาพาปลากลับบ้านจากโขงสู่หนองหาร ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว ลงสู่ลำน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พร้อมมอบเงินอุดหนุนโครงการชุมชนเข้มแข็งฯ และมอบชุดเพาะฟักเคลื่อนที่แก่องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น จำนวน 3 ชุมชน ตลอดจนเยี่ยมชมการดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำด้วยระบบเพาะฟักเคลื่อนที่ Mobile hatchery การผสมเทียมพ่อแม่พันธุ์ปลาพื้นถิ่นที่รวบรวมจากแม่น้ำโขงในช่วงอพยพ และนิทรรศการความรู้ทางการประมง หลังโครงการแล้วเสร็จคาดว่าจะเพิ่มผลผลิตและคงความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่หนองหารและลุ่มน้ำก่ำ และก่อประโยชน์ในการทำประมงของชุมชน และเป็นแหล่งโปรตีนให้กับประชาชนในอนาคต

นายบัญชาเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2564 กรมประมงได้ดำเนินโครงการ “ประมงร่วมอาสาพาปลากลับบ้าน” เพื่อฟื้นฟูผลผลิตสัตว์น้ำคืนความอุดมสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศต้นน้ำและแม่น้ำสาขา ด้วยการร่วมกับชุมชนในพื้นที่ ดำเนินการเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดของไทย ด้วย “ชุดอุปกรณ์เพาะพันธุ์ปลาแบบเคลื่อนที่”(Mobile hatchery) และนำผลผลิตลูกปลาวัยอ่อนที่ได้ปล่อยคืนสู่ต้นน้ำที่เป็นแหล่งกำเนิด ซึ่ง 2 พื้นที่เป้าหมาย คือ หนองหาร จังหวัดสกลนคร และกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จในเฟสที่ 1 ผลปรากฏว่า สามารถสร้างผลผลิตทรัพยากรปลาไทยและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้มากถึง 76.79 ล้านตัว สามารถเพิ่มอาหารโปรตีนราคาถูกและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน

โดยดึงคนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรประมง เกิดการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำสำคัญให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นแหล่งการทำประมงที่สำคัญในภูมิภาค สร้างอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมงและประชาชนในพื้นที่ สอดคล้องกับนโยบาย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญ ให้มีความอุดมสมบูรณ์เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในพื้นที่ภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชน

ADVERTISMENT

กรมประมง จึงขยายผลไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่อื่นๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการการบริโภคทรัพยากรสัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้น โดยมีแนวคิดในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงด้วยโครงการ “พัฒนาและเพิ่มความอุดมสบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำและคงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ 3 แหล่งน้ำ (หนองหาร บึงบอระเพ็ด กว๊านพะเยา) ด้วยชุด Mobile hatchery เพื่อดำเนินการเพาะพันธุ์และนำลูกพันธุ์ปลาในระยะแรกฟัก (2 วัน) ไปปล่อยในพื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งผสมพันธุ์วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำ โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำจืดในฤดูปลาน้ำจืดมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน (ฤดูน้ำแดง) เนื่องจากช่วงเวลานี้มีน้ำหลาก ระดับน้ำเพิ่มสูงเป็นฤดูกาลอพยพของปลาเพื่อผสมพันธุ์วางไข่ตามธรรมชาติ

ADVERTISMENT

โดยได้กำหนดชนิดพันธุ์ปลาที่ได้ดำเนินการเพาะขยายพันธุ์ จำนวน 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มปลากินพืช ได้แก่ ปลาตะเพียน ปลาตะเพียนทอง ปลากาดำ และปลากระแห และ 2.กลุ่มปลาหนัง ได้แก่ ปลาสวาย ปลาเทโพและปลากดเหลือง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการเพิ่มผลผลิตในโครงการนี้ และได้ดำเนินการในบริเวณพื้นที่ปากแม่น้ำสายหลักหรือปากแม่น้ำโขง ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับชุมชนประมงอนุรักษ์ในพื้นที่รวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาไข่แก่ น้ำเชื้อสมบูรณ์ ฉีดฮอร์โมนผสมเทียม รีดไข่ เพาะฟักจนออกเป็นตัวอ่อน และนำลูกปลาวัยอ่อนบรรจุถุงควบคุมอุณหภูมิ

แล้วนำไปปล่อยลงในพื้นที่เป้าหมายแหล่งต้นน้ำ 3 พื้นที่ คือ บึงบอระเพ็ด หนองหาร และกว๊านพะเยา โดยจะปล่อยปลาพื้นที่ละ 30 ล้านตัว รวมจำนวนทั้งสิ้น 90 ล้านตัว นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้เรียนรู้ในทุกกระบวนการขั้นตอน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นในชุมชน ทั้งนี้ โดยกรมประมงได้มีการสนับสนุนการสร้างแหล่งอาหารสำรองเพื่อรองรับจำนวนลูกปลาที่จะนำมาปล่อย เป็นการเพิ่มอัตราการรอดและการเติบโตของลูกปลาจำนวนมาก หลังจากนำไปปล่อยในพื้นที่แหล่งต้นน้ำ และจะมีการประเมินความชุกชุมการแพร่กระจายและการเติบโตของพันธุ์ที่นำมาปล่อยอีกด้วย ภายใต้การมีส่วนร่วมขององค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นและผู้นำชุมชนในพื้นที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image