เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.62 บาท แข็งค่าเล็กน้อยตามทิศทางเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.62 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.71 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.30-36.90 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.50-36.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
สำหรับประเทศไทยตลาดมองว่ายอดการส่งออก (Exports) ในเดือนมิถุนายนอาจโตราว 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ราคาสินค้าพลังงานรวมถึงผลจากการอ่อนค่าของเงินบาทจะยิ่งหนุนให้ยอดการนำเข้า (Imports) เพิ่มสูงขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ดุลการค้ายังคงขาดดุลราว 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นอีกปัจจัยที่กดดันดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงนี้
แนวโน้มของค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินเหรียญสหรัฐ แต่ต้องระวังความผันผวนในช่วงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดการเงินไทยนั้นปิดทำการ ทำให้ปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางลงกว่าปกติ ทั้งนี้ เงินบาทจะไม่อ่อนค่ารุนแรง หากจีนไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง นอกจากนี้ เงินบาทอาจได้แรงหนุนจาก แรงซื้อหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติ และโฟลว์ขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำรวมถึง มุมมองของผู้เล่นบางส่วนที่เริ่มกลับมาเก็งกำไรการแข็งค่าของเงินบาท (Long THB) ท่ามกลางความหวังการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากต่างชาติที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด
ส่วนเงินเหรียญสหรัฐนั้นอาจจบรอบขาขึ้นแล้ว หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดและไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง Peak Hawkishness ของเฟดได้ผ่านไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เงินเหรียญสหรัฐอาจพอได้แรงหนุนจากภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) หากตลาดผิดหวังกับรายงานผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปแย่กว่าคาดกดดันเงินยูโร EUR อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ช่วงตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ดังจะเห็นได้จากความผันผวนของเงินบาทที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ระดับ +2 S.D. (Standard Deviation) แนะนำผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ระบุว่า ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.60-36.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยค่าเงินบาทยังคงแกว่งอยู่โซนใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อน โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการในหลายบริษัท ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปดีดกลับ หลังนักลงทุนคลายกังวลเรื่องภาวะขาดแคลนพลังงาน ขณะเดียวกันจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์นี้ หลังตลาดเริ่มกังวลคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
