รวบนักธุรกิจโหด ฆ่ารัดคอเมีย จับอำพรางผูกคอตาย

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.รณภพ พรอรุณ รอง ผบก.ภ.จ.นครปฐม ร่วมกันแถลง พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จ.นครปฐม จับกุมนายสุชิน ไม้ชัยมงคล หรือจิงกวง เฉิน อายุ 48 ปี นักธุรกิจเปิดบริษัทนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปโดยทุจริตหรืออำพรางคดี พร้อมของกลางเครื่องหนีบผมพร้อมสายไฟ 1 ชุด ราวผ้าม่าน 2 ชิ้น ชุดกล้องวงจรปิด และอื่นๆรวม 6 รายการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. มีผู้กล่าวโทษกรณีนางสาวปารวี เฉิน เสียชีวิตอย่างน่าสงสัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง เหตุเกิดบ้านเลขที่ 89/111 หมู่ 8 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ต่อมาทาง พ.ต.อ.กัมปนาท สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว สืบสวนหาข้อเท็จจริงจนทราบว่านายสุชิน สามีผู้เสียชีวิต นำศพส่ง รพ.วิชัยเวช โดยให้รายละเอียดว่าผูกคอตนเองเสียชีวิต และพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน นำศพส่ง รพ.ศิริราช เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิต จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหา ได้ทำลายพยานหลักฐานที่สำคัญหลายรายการซึ่งเป็นการอำพรางคดีโดยทุจริต พนักงานสอบสวนจึงยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐมขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับ

ต่อมาวันที่ 18 ก.ค. พล.ต.ต.ชมชวิณ สั่งการให้ พ.ต.อ.กัมปนาท ร่วมกับ กก.สส.ภ.จ.นครปฐม และบก.สส.ภ.7 ติดตามจับกุมนายสุชิน ได้ที่ภายในวัดแห่งหนึ่ง ม.3 ต.อ้อมใหญ่ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและส่งตัวฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางนครปฐม ก่อนที่พนักงานสอบสวนรับผลการตรวจชันสูตรพลิกศพจาก รพ.ศิริราช โดยรายละเอียดสำคัญในรายงานขัดแย้งกับคำให้การของนายสุชิน สามีผู้เสียชีวิต จึงมีพยานหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่าผู้เสียชีวิตถูกสามีฆาตกรรม

พ.ต.อ.กัมปนาท กล่าวว่า ก่อนเสนอศาลขออนุมัติจับกุมนายสุชิน เนื่องจากผู้ต้องหาให้การขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนมีรวมทั้งผลชันสูตรศพ ซึ่งเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว แต่ไม่แจ้งพนักงานสอบสวนโดยนำภรรยา ไปส่งที่โรงพยาบาลเองก่อนทาง รพ.แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน มาสอบสวนแล้วนำศพส่งพิสูจน์ที่ รพ.ศิริราช ซึ่งเป็นการปกปิดการเสียชีวิต จากนั้นผู้ต้องหารับศพภรรยาไปสวดพระอภิธรรม 1 คืน ก่อนญาติผู้เสียชีวิตสงสัยในพฤติกรรมจึงเข้าร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนที่นางสาวปารวี เสียชีวิต 3-4 วัน โทรศัพท์มาบอกว่ามีปากเสียงกับสามีและถูกทำร้ายร่างกาย ถูกขู่ฆ่าพร้อมบอกหากเสียชีวิตสามีต้องเป็นผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นตั้งประเด็นสาเหตุไว้ 2 ประเด็นคือเรื่องชู้สาว กับทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านบาทที่ทั้งสองร่วมสร้างกันมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image