ที่แท้ผู้เช่าเดิม ขโมยของโรงแรมสมุยขายต่อ ประเมินใหม่เสียหาย 17 ล้านจากเดิม 70 ล้าน (มีคลิป)

ตร.จับ 9 ผู้ต้องหา ปล้นโรงแรมสมุย ยึดคืน ‘หน้าต่าง-หลังคา’ ประเมินใหม่เสียหาย 17 ล้าน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 กันยายน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ได้รับแจ้งจาก นางวารี โชคคณาพิทักษ์ ว่าเป็นเจ้าของโรงแรมบลูลากูน เดอะ ทีค วิง ตั้งอยู่ที่ ม.2 ต.บ่อผุด ซึ่งมีคนร้ายเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในโรงแรมดังกล่าวจนได้รับความเสียหายมากกว่า 70 ล้านบาท ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ควบคุมดูแล การสืบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชน และสื่อมวลชนอย่างมาก รวมทั้งเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ให้เร่งทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็ว

Advertisement

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า สถานที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าวได้ถูกเช่าเพื่อนำไปทำเป็นโรงแรมตั้งแต่ปี 2533 ภายใต้สัญญาเช่า 30 ปี ครบกำหนดเมื่อปี 2563 โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้รับพื้นที่ดังกล่าวคืนพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โรงแรมและทรัพย์สินภายในโรงแรมทั้งหมด) เมื่อประมาณปลายปี 2564 ซึ่งทาง ผู้เสียหายได้มีการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยมาดูแลในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยทิ้งร้างหลังจากหมดสัญญาจ้างกับพนักงานรักษาความปลอดภัย ต่อมาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจดูภายในโรงแรมพบว่ามีทรัพย์สินภายในโรงแรมสูญหายไปเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 23.5 ล้านบาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เช่าเดิม ที่เพิ่งส่งมอบที่ดินคืนให้แก่ผู้เสียหาย และได้วางแผนกลับมาลักเอาทรัพย์สินภายในโรงแรมดังกล่าว เพื่อนำไปขายต่อ และเมื่อวันที่ 8 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด นำหมายค้นเพื่อขอเข้าค้นโกดังเก็บของ ซึ่งนางณัชชา โนภูเขียว หรือแพท เป็นผู้ดูแล โดยภายในโกดังพบวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งโต๊ะ เตียง ตู้ และสุขภัณฑ์ ส่วนภายนอกโกดัง ยังพบเหล็กกล่องอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย 1.นายโอมชัยศักดิ์ หรือโอม จันทร์แจ่ม อายุ 50 ปี เป็นผู้วางแผน 2.น.ส.ณัชชา หรือแพท โนภูเขียว อายุ 31 ปี เป็นผู้วางแผน 3.น.ส.ขวัญใจ หรือน้อย นิยม อายุ 40 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 4.นายอภิพัฒน์ หรือโอ๊ต จันทร์แจ่ม อายุ 33 ปี บุตรชายของนายโอมชัยศักดิ์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 5.นายกฤษณะ หรือหนุ่ย ขาเมือง อายุ 33 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 6.นายตูยา โซว อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 7.นายมิน เพียว อ่อง อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ 8.นายพยู อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์ และ 9.น.ส.ภัคจิรา ประยูรชาญ อายุ 42 ปี เป็นผู้รับซื้อของที่ได้มาจากการลักทรัพย์

Advertisement

และสามารถยึดทรัพย์สินของกลางในคดีได้หลายรายการ ได้แก่ รถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวน 2 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน ชุดถังแก๊สที่ใช้ในการตัดเหล็ก จำนวน 1 ชุด ท่อนเหล็ก วงกบประตู บานหน้าต่างไม้ แผ่นหลังคาเมทัลชีท ที่ได้จากการลักมาจากที่โรงแรมจำนวนมาก โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุนี้จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วย ประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” อัตราโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ร่วมกับนางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของโรงแรม ได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินในโรงแรมเพื่อประเมินความเสียหายของทรัพย์อีกรอบ เนื่องจากพบว่าไม่ใช่ทุกห้องที่จะได้รับความเสียหาย จากมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายประมาณการในครั้งแรกประมาณ 17,548,000 บาท ขณะนี้สามารถติดตามกลับมาได้จำนวน 381 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 659,000 บาท และตรวจพบทรัพย์สินในที่เกิดเหตุที่ยังไม่สูญหาย จำนวน 1,001 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,557,500 บาท สรุปความเสียหายเบื้องต้นคิดมูลค่าประมาณ 14,334,500 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image