พ่อเฒ่าวัย 74 หึงหนัก ระแวงคบชู้กับลูกเขย-หลาน ยายเดือดควงค้อนสู้ ตีปางตาย ล่าสุดตานอนโคม่า ยายลั่นไม่ขอคืนดีด้วยเหตุหึงทุกสถานการณ์ หึงแม้กระทั่งลูกเขยและหลายชายพิการ ก่อนเกิดเหตุตาหาเมียไม่เจอ หึงจนเผาเถียงนาพร้อมใช้ค้อนตีก่อน ยายจึงสู้ป้องกันตัวเอง
เมื่อเวลา 22.20น. วันที่ 23 กันยายน ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากที่ศูนย์วิทยุสื่อสารมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้าย ได้บาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดที่กองฟืนใกล้กระท่อม (เถียงนา) กลางทุ่งนา จ.ปราจีนบุรี
พบผู้บาดเจ็บสภาพบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลบริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ทราบชื่อคือ นายเสาร์ อายุ 74 ปีได้นำร่างออกจากจุดเกิดเหตุส่งห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.กบินทร์บุรี
ส่วนกระท่อมพัก หรือเถียงนา ที่เป็นที่พักในช่วงทำนา ใช้กินข้าว หลบแดดฝน พบถูกไฟไหม้เผาวอดทั้งหลัง โดยมี นางแสน อายุ 73 ปี ภรรยา ผู้ก่อเหตุ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังใช้ค้อนฟาด-ตีสวนสามี เพราะถูกกล่าวหาว่าไปมีชู้
โดยเบื้องต้นนางแสนกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ สามีกล่าวหาตนว่าไปเลี้ยงควายและไปคบชู้กับคนข้างบ้าน รวมทั้งลูกเขยและหลายชายที่พิการในบ้านด้วยจนทนไม่ไหว ก่อนเกิดเหตุก็มาหาเรื่องด้วยการจุดไฟเผากระท่อม หรือเถียงนาที่ตนเองปลูกไว้หลบแดดหลบฝนเวลาเลี้ยงควายจนวอด และยังใช้ค้อนฟาดที่หน้าแข้งและมือของตนอีก ตนจึงคว้าค้อนตีสวนกลับ ต่อสู้กันเหมือนกับในลิเกรบกัน โดยฟาดเข้าไปที่หัวจนบาดเจ็บสลบ นอนกองข้างกองฟืนหน้ากระท่อม ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่กลางดึก พบนางแสน อายุ 73 ปีภรรยา ผู้ก่อเหตุที่บ้านพักเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง ได้พาเดินเท้าไปดูจุดเกิดเหตุ เป็นกระท่อม หรือเถียงนาปลูกด้วยไม้ยูคาลิปตัส พื้นเป็นแคร่ไม้ไผ่ หลังคามุงหญ้าคา แต่ถูกเผาเหลือแต่โครงตั้งอยู่กลางทุ่งนาข้าวห่างจากตัวบ้านเกือบ 100 เมตรเศษ พร้อมชี้จุดวิวาทใช้ค้อนตีต่อสู้กันกับสามี จนสามีบาดเจ็บสาหัสหน้ากองฝืนหน้าเถียงนา
นางแสนกล่าวว่า เกิดเหตุมาจากสามีคือ ตาหึงเมียคือตนเองตลอด คอยสอดส่องมองว่ายายไปไหน ไปคุยกับเพื่อนบ้าน ก็หาว่ายายไปมีชู้ ไม่ว่ากับลูกเขยหรือกับหลานชายที่พิการเป็นอัมพฤกษ์เลี้ยงมาแต่เล็กๆ ก็หึง
ยายเองเป็นคนขยันทำนา ข้าวเต็มยุ้งฉาง เวลาหายไปทำนา ทำงาน หรือออกจากบ้าน ตาไม่เห็นยาย ก็ว่ายายไปมีชู้ ที่ผ่านมานั้นยายเองทำนาคนเดียว เลี้ยงควายด้วย โดยเลี้ยงควาย 1 ตัว มีลูกรวม 5 คน อยู่ด้วยกันมานานกว่า 50 ปีเศษ ลูกๆ ออกเหย้าเรือนกันหมดแล้ว อยู่บ้านพักลำพังกับหลานสาว หลานชายพิการ และตา
“ก่อนที่ตาจะเป็นคนที่หึงหวงมากๆ มาจากป่วยเป็นอัมพฤกษ์หลายปี และช่วงท่อนล่างเสื่อม ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันมานาน ต่างคนต่างอยู่ และหลังเกิดเรื่องนี้แล้ว จะไม่ขอหวนกลับคืนดีกับตาแล้ว เป็นการป้องกันตัว” นางแสนกล่าว
ด้าน นางศิริพร ซิ้มเจริญ ผู้ใหญ่บ้านโนนแดง อายุ 56 ปี และ ผช.ผญบ. กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ 2 ตายายใช้อาวุธค้อนต่อสู้กัน มีการเผาเถียงนา โดยตาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทาง ผช.ผญบ.ได้เดินทางไปเถียงนาที่เกิดเหตุพบตาได้รับบาดเจ็บสาหัส แจ้งกู้ภัยมารับนำส่งห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.กบินทร์บุรี
ด้าน หลานชาย อายุ 33 ปี กล่าวว่า “ก่อนเกิดเหตุ คุยกันไปแล้วรอบหนึ่งแล้วว่าจบไปแล้ว ไม่มีอะไรกันแล้ว ได้โทรให้ลูกๆ มาเคลียร์มาคุยกันแล้ว ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เป็นห่วงตาคิดมาก คิดไปเอง ตาแก่มากแล้วอายุ 70 กว่าแล้ว แต่ก่อนเดินไม่ได้ แต่ตอนนี้เดินได้แล้ว” หลานชายกล่าว
ขณะที่ บุตรสาวคนเล็ก ที่มาเยี่ยมบิดาที่หน้าห้องผู้ป่วยศัลยกรรมชั้น 2 พร้อมพี่สาว (ลูกคนที่ 3) กล่าวว่า เพิ่งเลิกจากทำงานประจำ มาเยี่ยมพ่อ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วแพทย์ยังให้นอนรักษาอาการซี่โครงหัก ต้องเจาะเลือดที่คั่งออกจากปอด
