ชัยภูมิ-อิทธิพลพายุโนรู น้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมโซนเศรษฐกิจ เร่งป้อง รพ.ชัยภูมิ
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อน ”โนรู” ส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในทั่ว จ.ชัยภูมิ หลายอำเภอเริ่มเกิดน้ำป่าหลากท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะล่าสุดในพื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ รวมทั้งศูนย์ราชการต่างๆ ทั้งหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ที่ดินจังหวัด ที่ทำการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ที่ทำการ สภ.เมืองชัยภูมิ ห้องสมุดประชาชน บ้านพักข้าราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าฯ และโดยเฉพาะจุดหลักโรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ เริ่มเกิดน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่สูงขึ้นขยายวงต่อเนื่อง
ไปถึงย่านผู้ประกอบการร้านค้าจำนวนมาก ย่านตลาดสดต่างๆ ย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ยาวตั้งแต่จุดรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลกลางใจเมืองชัยภูมิ เกิดน้ำทะลักออกจากท่อระบายน้ำท่วมขังสูงต่อเนื่อง สูงกว่า 30-50 ซม. และยังมีแนวโน้มที่ระดับน้ำท่วมยังมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง เสี่ยงเกิดน้ำท่วมหนักซ้ำรอยปี 2564 หนักสุดในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมาได้อีกครั้งในปีนี้ ที่สร้างความเสียหายขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ได้
จากการประเมินสถานการณ์พายุ ”โนรู” จะเข้ามาสร้างผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักมากสุดซ้ำอีกในปี 2565 ด้วย ที่จะเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ระหว่างช่วงวันที่ 27 ก.ย.ยาวไปถึง 1 ต.ค.65 ปีนี้ด้วย
หลังจาก จ.ชัยภูมิ ได้มีการเรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งเตรียมความพร้อมรับมือพายุฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ ”โนรู” ปีนี้มาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งแจ้งด่วนที่สุดไปถึง นายก อปท.ทุกแห่ง/กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล หมู่บ้าน ทั้งกว่า 1,600 หมู่บ้าน ขอให้เร่งดำเนินการในการรับสถานการณ์อุทกภัย จากอิทธิพลของพายุโนรูจากนี้ไปเป็นการด่วนด้วย ทั้งให้ 1.แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง 2.ตั้งศูนย์อำนวยการรับสถานการณ์อุทกภัยในทุก อปท. 3.เตรียมการจัดตั้ง โรงครัวที่อพยพประชาชน ศูนย์แพทย์เคลื่อนที่ อุปกรณ์ เรือ รถกู้ภัย ให้เตรียมความพร้อมจากวันที่ 26 ก.ย.65 นี้ไปตลอด 24 ชม.ทุกพื้นที่
และล่าสุดเทศบาลเมืองชัยภูมิได้เร่งประกาศแจ้งเตือนประชาชนในโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองชัยภูมิทั้งหมด ให้เตรียมความพร้อมเร่งขนย้านสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูงไว้ก่อนเป็นการด่วนแล้ว หลังต้องช่วยกันติดตามสถานการณ์ที่ขณะนี้การระบายน้ำออกจากตัวเมืองชัยภูมิ เป็นไปได้ยากหลังเกิดฝนตกหนัก รวมทั้งแม่น้ำชีหลากล้นตลิ่งยากต่อการระบายน้ำออกนอกเมือง รวมทั้งในจุดตัวเมืองชัยภูมิ ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณน้ำหลากล้นสันเขื่อนลำปะทาวในระดับเกินความจุในปีนี้ใกล้ถึงจุดวิกฤตอีกครั้งแล้ว จากปี 2564 ที่ผ่านมาเกินความจุกว่า 62 ซม. และในปีนี้ขณะนี้มีปริมาณฝนตกหนักบนเทือกเขาภูแลนคา เกิดน้ำล้นสันเขื่อนลำปะทาวสูงกว่า 56 ซม. ซึ่งหากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในขณะนี้อีกไม่เกิน 1-2 วัน ตามการแจ้งเตือนผลกระทบของพายุโนรู ที่ยังจะเกิดฝนตกหนักในปีนี้ยาวไปอีกหลายวันระหว่างช่วง 27 ก.ย.-1 ต.ค.65 นี้ ที่จะทำให้พื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองยากที่จะเลี่ยงการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่หนักซ้ำอีกในปีนี้อีกครั้งด้วย
ขณะที่อีกด้านโซนรอบนอกตัวเมืองชัยภูมิ ชาวบ้านอีกหลายร้อยครอบครัวในเขตหมู่บ้านชีลองใต้ ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ยังเกิดน้ำป่าหลากทะลักลงมาจากเทือกเขาภูแลนคา รอยต่อพื้นที่เขื่อนลำปะทาวยังเกิดน้ำป่าหลากทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างเพิ่มอีกต่อเนื่อง และในหลายอำเภอที่เริ่มได้รับผลกระทบจากพายุโนรู ในวันนี้ทั้งที่เขต อ.บ้านเขว้า และจัตุรัส ก็เริ่มมีระดับน้ำชีหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ขยายวงเพิ่มขึ้นด้วยอีกต่อเนื่อง
