สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี-มูลตอนบนเริ่มคลี่คลาย ส่วนตอนกลาง-ล่าง แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูลเกือบ 3 เมตร ส่งผลให้แม่น้ำมูลไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้สะดวกขึ้น
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับพายุดีเปรสชั่น พายุโนรู ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักกระจายในหลายพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และลำน้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจุบันแนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำชี-มูลตอนบนจะเริ่มลดลง แต่ตอนกลาง-ตอนล่าง ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น วันเดียวกันนี้ มีปริมาณน้ำในอ่าง 3,198 ล้าน ลบ.ม. หรือ 132% ของความจุอ่าง เกินระดับเก็บกัก จำเป็นต้องระบายน้ำออกวันละประมาณ 54 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะไหลลงไปสมทบกับแม่น้ำมูลที่ จ.อุบลราชธานี โดยที่สถานีวัดน้ำ M.7 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 5,735 ลบ.ม./วินาที โดยกรมชลประทานได้แขวนบานระบายน้ำขึ้นพ้นน้ำทุกเขื่อนตลอดแนวลุ่มน้ำชี-มูล เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกมากขึ้น
สถานการณ์ล่าสุดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงสามารถระบายน้ำได้วันละประมาณ 610 ล้าน ลบ.ม. ถือว่ายังสามารถระบายได้ดี เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงต่ำกว่าระดับน้ำท้ายเขื่อนปากมูลประมาณ 2.62 เมตร
กรมชลประทานได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมวางแนวทางการบริหารจัดการน้ำชี-มูล เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยให้เร็วที่สุด รวมไปถึงการนำเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ กรมชลประทานได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมนำรถบรรทุกให้บริการประชาชนที่จะเดินทางจากเขต อ.เมืองอุบลราชธานี ไปยัง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี อีกด้วย