เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน กองทัพบกยังคงส่งกำลังพล 4,000 นาย รถยนต์บรรทุก 405 คัน สะพาน เรือ และยุทโธปกรณ์ต่างๆ เข้าดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ สำหรับ กทม.และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่จะต้องรองรับมวลน้ำปริมาณมาก ในห้วงกลางเดือน ต.ค.นี้และหลายหน่วยงานได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจและลดผลกระทบตามแผนรับมือน้ำท่วม
ล่าสุดช่วงบ่าย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมให้กำลังใจประชาชนที่อาศัยในพื้นที่บริเวณริมคลอง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีกำลังพลของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก เข้าสนับสนุนส่วนราชการในการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
“ผบ.ทบ.ได้กำชับให้หน่วยทหารประสานความร่วมมือกับส่วนราชการ ร่วมกันดูแลประชาชนโดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมคลอง รวมทั้งส่งหน่วยเสนารักษ์เข้าให้บริการทางการแพทย์กับประชาชน พร้อมให้แนวทางการบริหารจัดการในสถานการณ์อุทกภัยว่า “ต้องช่วยเหลือกันตั้งแต่ต้นน้ำ จึงจะสัมฤทธิ์ผล ทุกคนต้องสามัคคีและร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ พร้อมให้คำมั่นกับประชาชนในพื้นที่ว่าทหารจะไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน” รองโฆษก ทบ.
พล.ต.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลายตำบลของ จ.นนทบุรี เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยเนื่องจาก น้ำไหลหลากผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาและน้ำล้นตลิ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ได้รับมอบให้ดูแลประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ได้นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์สนับสนุนการช่วยเหลือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันบ้านเรือน ทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะการวางกระสอบทรายป้องกันการพังทลายของพนังกั้นน้ำ และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อพร้อมบูรณาการเข้าช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดเหตุการณ์
