นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล และสำนักงานชลประทานที่ 10-12 ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น ในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการใช้รถสูบน้ำเคลื่อนที่เร็วที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง อัตราการสูบน้ำรวม 0.5 ลบ.ม./วินาที จำนวน 8 คัน เข้าดำเนินการตามจุดที่มีความพร้อมในพื้นที่จังหวัดชัยนาท 3 แห่ง ได้แก่ บริเวณหมู่ที่ 2, หมู่ที่ 9 ต.ตลุก และบริเวณวัดราษฎร์บูรณะ ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จุดละ 1 คัน และในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ที่บริเวณหมู่ที่ 7 ต.ประศุก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี อีกจำนวน 1 คัน รวมรถสูบน้ำเคลื่อนที่เร็วทั้งสิ้น 4 คัน เร่งเดินเครื่องระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงอยู่ ได้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำไว้พร้อมแล้ว หากระดับน้ำลดลงจะเร่งเข้าไปติดตั้งและเดินเครื่องสูบน้ำต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เตรียมพร้อมสนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่อื่นๆ ที่มีความพร้อม รวมไปถึงการซ่อมแซมและปรับปรุงระบบชลประทานที่เสียหายจากน้ำท่วมในทุกพื้นที่ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
