เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำกำลังชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. จับกุมนายพงศกร พลเมือง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี โดยกล่าวหาว่า “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกง” ได้หน้าบ้านเลขที่ 238 หมู่ 4 ต.บะฮี อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 4 พ.ย.
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก ต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์ ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเจ้าของบัญชีม้ารับโอนเงินที่หลอกจากผู้เสียหายหลังตำรวจ บก.สส.บช.น.จับกุมเข้าตรวจค้นและจับกุมนายวัชระ นาคสุข เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งเป็นคนร้ายสร้างบัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปโพสต์หลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสองในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ กว่า 200 กลุ่ม และนายพงศกรให้การภาคเสธ ว่าเมื่อ ก.ค. เคยเข้าไปสมัครเล่นพนักออนไลน์เว็บไซต์ WoWslot345 โดยทางเว็บไซต์พนันออนไลน์โฆษณาจะให้เครดิตฟรี 50 บาท สำหรับคนที่สมัครเล่น โดยมีข้อแม้ว่าผู้ที่จะสมัครเล่นเพื่อรับเครดิตนั้น ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวแก่เว็บไซต์พนันออนไลน์นายพงศกรเกิดความสนใจอีกทั้งไม่ได้ระมัดระวังตัวเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกเอาไปก่อเหตุจึงเข้าสมัครเล่น โดยให้ข้อมูลภาพถ่ายด้านหน้า หลังบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลบัญชีธนาคารส่วนตัว, เบอร์โทรศัพท์แก่เว็บพนัน
ผบก.สส.บช.น. ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.มีจดหมายจ่าหน้าซองผู้ส่งซึ่งน่าจะเป็นผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายหลอกส่งเอกสารทางไปรษณีย์มาถึงนายพงศกร ภายในซองเอกสารเป็นข้อมูลที่ผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกได้แคปเจอร์ภาพหลักฐานการถูกหลอกขายสินค้าจำพวกอะไหล่รถยนต์มือสอง จากเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “พีระ ขายกันชน โตโยต้า เอสติม่า แท้” โดยข้อมูลผู้ส่งสินค้าที่หลอกผู้เสียหายนั้นกลับกลายเป็นชื่อ-สกุลของตน แต่ข้อมูลผู้ส่งนั้นกลับไม่ใช่ของตนแต่อย่างใด จึงเกิดความตกใจจึงรีบลงประจำวันเป็นหลังฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจไว้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ตามภูมิลำเนา แต่ก็มาถูกดำเนินคดีเนื่องจากคนร้ายนำข้อมูลของไปเปิดบัญชีม้าเพื่อรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวเน้นย้ำและเตือนภัยว่า “อย่าหลงเชื่อ ส่งหรือโพสต์ข้อมูลส่วนตัวทางออนไลน์ให้แก่บุคคลอื่น มิฉะนั้นเหล่ามิจฉาชีพจะนำข้อมูลสำคัญนำไปใช้ในการหลอกลวงท่าน หรือนำไปใช้เปิดเป็นบัญชีม้าหลอกลวงบุคคลอื่นให้หลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีที่เปิดในชื่อของตน จนท่านอาจตกเป็นผู้ต้องหา ถูกดำเนินคดี มีทั้งโทษจำและโทษปรับ โดยไม่รู้ตัวจึงขอเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า โปรโมชั่นหรือของฟรีในโลกออนไลน์ “ไม่มีอยู่จริง” ต้องพึงระลึกและตระหนักอยู่เสมอว่า “ทุกครั้งที่ท่านให้ข้อมูลใดส่วนตัว ในโลกออนไลน์ ท่านกำลังจะถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อของกลุ่มเหล่านี้”
