โฆษกกรอ.เอเปค แจงจำเป็นควบคุมสถานการณ์หลังกระทบกระทั่งบาดเจ็บ เหตุผู้ชุมนุมฝ่ากฎหมาย ทำร้าย ขว้างปาตร. เผารถหลวง

โฆษกกรอ.ฯ เอเปค แจงจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์จนกระทบกระทั่ง ผู้ชุมนุมเจ็บ1 ตำรวจ 5 เหตุม็อบฝ่าฝืนกฎหมายตั้งแต่เริ่มเคลื่อนลานคนเมือง ตร.ได้เจรจาความเข้าใจตามลำดับ แต่ไม่ยอม ทำร้ายจนท. ปาหิน เผารถหลวง

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมเอเปค 2565 (กอร.รปภ.จร.) แถลงว่า เมื่อเวลา 08.50 น. วันเดียวกัน กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 ปักหลักอยู่ลานคนเมืองยอดผู้ชุมนุม 350 คน ได้เคลื่อนขบวนไปเรียกร้องที่ประชุมเอเปค โดยฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไข เจ้าหน้าที่ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชุมนุมทราบต่อเนื่อง โดยตำรวจ.สน.สำราญราษฎร์ ได้แจ้งผู้ชุมนุมทราบการเคลื่อนย้ายการชุมนุม ฝ่าฝืนปรับอัตราโทษไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และได้แจ้งหนังสือการชุมนุมสาธารณะให้ตัวแทนผู้ชุมนุมได้ทราบ ต่อมาผุ้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนมาถึงถนนดินสอ ตำรวจได้ใช้เครื่องเสียงประกาศเจรจาผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่ยินยอมและฝ่าฝืนกฎหมาย ได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ขว้างปาก้อนหินสิ่งของ ทำลายรถยนต์กระบะราชการเสียหาย ใช้กำลังทำร้ายและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตำรวจจึงมีความจำเป็นใช้กำลังป้องกันตนเอง ทำการจับกุมผู้กระทำความผิดเหตุซึ่งหน้าดังกล่าว

พล.ต.ต.อาชยนกล่าวว่า เวลา 12.30 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจุดไฟวางเพลิงเผาทรัพย์ บนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายบารมี ตำรวจจึงต้องคลี่คลายสถานการณ์เนื่องจากเปลวเพลิงลุกไหม้ ไม่ให้เป็นอันตรายแก่ประชาชน และได้จับกุมตัว

“ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ 25 คน มีการดำเนินคดี ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำร้ายร่างกาย และพ.ร.บ.รักษาความสะอาด รวมทั้งกำลังรวบรวมหลักฐานกรณีความผิดอื่น” พล.ต.ต.อาชยนกล่าว และว่า นอกจากนี้มีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บนั้น ขอเรียนว่า กอร.รปภ.จร.มีแผนดูแลสื่อมวลชนดังนี้ ให้ลงทะเบียนสื่อมวลชน กำหนดสัญญลักษณ์โดยมีปลอกแขน และกำหนดพื้นที่ปลอดภัย โดยไม่รบกวนการทำงานตำรวจ ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนเข้าใจและไม่เกิดการบาดเจ็บอีก ส่วนตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ที่บาดเจ็บมี 5 นายได้ไปรักษาตัว ส่วนผุ้ชุมนุมมีบาดเจ็บที่คิ้วข้างขวา แพทย์ได้ดูแลอยู่ ส่วนผู้ชุมนุมอื่นได้ติดตามอยู่ว่ามีการเจ็บเพิ่มหรือไม่”

Advertisement

สถานการณ์โดยภาพรวม ตำรวจมีความจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์เพื่อป้องกันเหตุในบางกรณีอาจมีภาพกระทบกระทั่ง จนได้รับบาดเจ็บ หรือถ้ามีภาพที่เห็นว่าผู้ชุมนุมได้รับการกระทำ ตำรวจจะดูว่ากรณีนั้นเป็นอย่างไร ทุกอย่างจะเปิดเผยกับประชาชน และสื่อมวลชนทุกประเด็น โดยผบ.ตร.ได้มีข้อสั่งการ และกำชับให้ตำรวจทุกนายพยายามเจรจา พูดคุย ทำความเข้าใจ หลีกเลี่ยงใช้กำลัง อดทนเข้าใจสถานการณ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย การชุมนุมสาธารณะ หากมีความจำเป็นต้องป้องกันตนเองหรือจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นได้สัดส่วนสถานการณ์ อุปกรณ์ต่างๆให้เป็นไปตามกฎหมาย และกำชับว่าปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีและยึดหลักกฎหมาย เพื่อให้ความสงบเรียบร้อย และขอให้ตำรวจผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย ทั้งนี้ตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย และตามแผน ทั้งนี้การยึดหลักกฎหมายแนวทางการใช้กำลัง เน้นการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง บังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ และบริหารการชุมนุมให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ส่วนสถานการณ์ล่าสุดผู้ชุมนุมกลับไปลานคนเมือง และไม่มีความรุนแรง ตอนนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้อยู่

ส่วนมูลเหตุที่กระทำผู้ชุมนุมนั้น ปัจจุบันมีกล้องซีซีทีวี ทั้งภาพนิ่ง และเคลื่อนไหว รวมทั้งสื่อได้บันทึกภาพไว้ ต้องดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจอุปกรณ์ต่อผู้ชุมนุม และขอตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่ละกรณีก่อน สถานการณ์ทุกอย่างต้องพิจารณาองค์ประกอบ ตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาจากยุทธวิถีและมาตรฐาน แต่ทุกเหตุการณ์ต้องมีคำตอบให้ประชาชน

Advertisement

“การรักษาความสงบเรียบร้อยผู้ชุมนุมต้องชุมนุมโดยสงบ เคลื่อนที่โดยสงบ ใช้การประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ และการพูดคุย แต่ถ้าเริ่มด้วยการก่อความไม่สงบ มีการเผาวางเพลิงก็ต้องดำเนินการ จะรับข้อมูลไปตรวจสอบแล้วชี้แจงไม่ชักช้า”โฆษกกรอ.รปภ.จร. กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image