รองโจ๊ก!ปลื้มประสาน สปป.ลาวส่งตัว 2 หนุ่มให้ ตร.ไทยตามหมายจับคดีปล้น-ฆ่าพ่อค้ารถมือสอง

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ มโนทัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด ร่วมกับสอบสวนแถลงจับกุม นายพันธรัตน์ และนายจิราวุฒิ ผู้ต้องหาฐานความผิด “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ใช้ปืนยิงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร และร่วมกันมี ใช้อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด รับแจ้งเหตุพบศพนายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี ในมือซ้ายกำสร้อยคอทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง บาดแผลถูกยิงเข้าที่ด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล และพบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ 2 แผล เหตุเกิดทางเข้าสนามบินขอนแก่น จากการสืบสวนพบว่าเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้เสียชีวิต เสนอขายรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน 1 ขบ 2903 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถหลุดจำนำให้กับนายพันธรัตน์ หรือโก้ โดยตกลงจะมีการโอนเงินค่ามัดจำก่อน 19,000 บาท แล้วจ่ายเงินที่เหลือตอนนัดรับรถจริง ต่อมาวันเดียวกันมีการนัดส่งมอบรถดังกล่าวที่บริเวณปั๊มน้ำมัน อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด โดยผู้เสียชีวิตพาเพื่อนไปด้วย 2 คน ส่วนฝั่งนายพันธรัตน์ ไปกับนายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ แต่เมื่อพบกันแล้ว นายพันธรัตน์อ้างว่าเงินสดที่เตรียมมาไม่พอจ่าย โดยมีเงินโอนจากลาวมาวันรุ่งขึ้น จึงเลื่อนนัดรับรถออกไปและแยกย้ายกันกลับ ต่อมาวันที่ 9 ต.ค. นายพันธรัตน์นัดให้ผู้เสียชีวิต ขับรถคันดังกล่าวมาส่งมอบบริเวณทางเข้าสนามบิน เมื่อไปถึงพบฝั่งนายพันธรัตน์ มากัน 5 คน โดยขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี มาด้วยมีการลงไปพูดคุยกัน จากนั้นนายพันธรัตน์ใช้อาวุธปืนออกมาผู้เสียชีวิตพยายามวิ่งหนี แต่ถูกนายพันธรัตน์ยิง 3 นัด ล้มเสียชีวิตจากนั้นขับรถกระบะที่นายพนมนำมาหลบหนีไป

หลังทราบข้อมูลตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย 1.นายพันธรัตน์ หรือโก้ อายุ 18 ปี 2.นายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ อายุ 26 ปี 3.นายธนพล หรือเอ๊กซ์ อายุ 22 ปี 4.นายเกียรติศักดิ์ หรือบาส อายุ 26 ปี และ 5.นายอภิชาต หรือฟิว อายุ 22 ปี เบื้องต้นติดตามจับกุมนายธนพล นายเกียรติศักดิ์ และนายอภิชาต ได้เรียบร้อย ส่วนนายพันธรัตน์และนายจิราวุฒิ สืบสวนทราบว่าหลบหนีข้ามพรมแดนไปยัง สปป.ลาว จึงประสานทางการลาวเพื่อขอความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย จนติดตามจับกุมและนำตัวมาส่งมอบที่ด่าน ตม.จว.หนองคาย เพื่อรับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประชาชนเนื่องจากกลุ่มคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจโดยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายอย่างเหี้ยมโหดก่อนจะลักเอารถกระบะไป จากการสืบสวนขยายผลหลังจากจับกุมผู้ก่อเหตุที่หลบหนีในประเทศได้แล้ว ทราบว่ามีผู้ก่อเหตุหลบหนีไปยัง สปป.ลาว จึงประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ทางการ สปป.ลาว เพื่อช่วยในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ และนำกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและลาวที่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกันในการปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความสนใจในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาแม้จะหนีไปต่างประเทศก็ตาม ถือเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำงานของตำรวจในสายตาของประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image