ตร.ปปป.ฟันซ้ำ แจ้งข้อหา 5 สรรพสามิต รีดทรัพย์ป้าเจ้าของร้านชำ ส่งสำนวน ป.ป.ช.เชือดต่อ

ตร.ปปป.ฟันซ้ำ แจ้งข้อหา 5 สรรพสามิต รีดทรัพย์ป้าเจ้าของร้านชำ ส่งสำนวน ป.ป.ช.เชือดต่อ หลังอธิบดีเอกนิติสั่งให้หยุดทำงาน ตั้ง กก.สอบ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป., พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.อภิชาติ โพธิจันทร์ รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.1 บก.ปปป. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปปป. ลงพื้นที่ตรวจสอบ

กรณีมีบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิต เข้าตรวจค้นร้านค้าขายของชำของ นางสุณาภรณ์ หรือป้าพร อายุ 75 ปี ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 52 แยก 45 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ และแจ้งให้นางสุณาภรณ์ทราบว่า ตรวจพบบุหรี่ปลอม จำนวน 2 คอตตอน ภายในร้าน และได้ข่มขู่เรียกเงินจากผู้เสียหาย เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี

พฤติการณ์ในคดี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เพจสายไหมต้องรอดได้พา นางสุณาภรณ์ (ผู้เสียหาย) เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิต ได้เข้าตรวจค้นร้านค้าขายของชำของนางสุณาภรณ์ ก่อนจะแจ้งว่าร้านของผู้เสียหายมีบุหรี่ปลอมจำหน่าย 2 คอตตอน เเละข่มขู่เรียกเงินจำนวน 20,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด และสอบสวนพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป.จึงได้ประสานขอข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวน สน.บางเขน และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปปป.ลงพื้นที่ดำเนินการสืบสวนติดตามกรณีดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และกระทำการโดยมิชอบด้วยหรือไม่

Advertisement

โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปปป. จึงได้เดินทางเข้าพบนางสุณาภรณ์ (ผู้เสียหาย) เพื่อบันทึกถ้อยคำ เก็บภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดภายในร้านขายของชำที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ โดยจากการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 16.50 น. มีชายไม่ทราบชื่อ แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จำนวน 5 คน เข้ามาตรวจค้นที่ร้านค้าของผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้มีการนำบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งจากร้านผู้เสียหายไปที่รถตู้ แล้วนำกลับมาบอกกับผู้เสียหายว่าเป็นบุหรี่ปลอม หลังจากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวจึงได้ให้ผู้เสียหายขึ้นไปคุยบนรถตู้ โดยเมื่อผู้เสียหายขึ้นไปบนรถ ผู้เสียหายพบกับชายแต่งเครื่องแบบซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว โดยชายคนดังกล่าวอ้างกับผู้เสียหายว่าเป็นหัวหน้าชุด แจ้งว่าผู้เสียหายจำหน่ายบุหรี่ปลอม หากอยากจะให้จบเรื่อง ให้นำเงินมามอบให้จำนวน 20,000 บาท แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเงินให้ กลุ่มชายดังกล่าวจึงให้ผู้เสียหายเอาเงินที่มีอยู่ในตัวทั้งหมดมามอบให้ โดยให้ใส่ไว้ใน กระติกน้ำแข็งที่วางอยู่หน้ารถ ด้วยความกลัว ผู้เสียหายจึงเอาเงินที่มีติดตัวอยู่จำนวน 5,500 บาท ใส่ลงไปในกระติกน้ำแข็งดังกล่าว ภายหลังจากนั้นกลุ่มบุคคลที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่สรรพสามิตทั้งหมดก็ได้ขึ้นรถตู้ และพาผู้เสียหายนั่งรถตู้วนไปในซอยเอื้ออาทร ก่อนจะขับกลับมาส่งผู้เสียหายที่ร้าน และขับรถตู้ออกไป

จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ได้เตรียมส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพสามิตเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว พร้อมกันนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้เร่งดำเนินการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้ง 5 เป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจริง เบื้องต้นได้สั่งให้ทั้ง 5 คนหยุดทำงาน และสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

Advertisement

ทั้งนี้ ในส่วนของ บก.ปปป.จะดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียกบุคคลทั้ง 5 มารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นจะสรุปสำนวนส่งให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image