เซ็น MOU 4 หน่วยงานพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสินค้าเกษตร-OTOP ยกระดับสร้างรายได้

เซ็น MOU 4 หน่วยงานพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสินค้าเกษตร-OTOP ยกระดับสร้างรายได้

 

กระทรวงมหาดไทย โดยองค์การตลาด กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์เทศนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และร่วมด้วยบริษัท ดารัวินเทค โซลลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามความร่วมมือด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP มุ่งยกระดับสินค้าเกษตรของไทย โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี โดยมีนายนายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร รองประธานกรรมการองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย นายวิทยา ทรัพย์เย็น รองผู้อำนวยการองค์การตลาด (อต.) นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC)และนายพงษ์ศักดิ์ ติยานันทิ กรรมการบริษัทดาร์วินเทค โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายทรงศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า แพลตฟอร์มนี้จะเป็นตัวกลาง ในการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคช่วยกำหนดทิศทางให้มีความบาลานซ์ เบื้องต้นจะเน้นด้านการเกษตรอย่างเดียวก่อน ความสมดุลย์การผลิตและการบริโภค หรือดีมานด์ซัพพลาย เนื่องจากในอดีตอาจจะต่างกันต่างทำ แต่แพลตฟอร์มนี้อจะเป็นองค์รวมด้านข้อมูล และราคาที่เป็นธรรม ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ไม่เรียกหาประโยชน์เพราะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เฟนแรกนี้จะเริ่มต้นที่ภาคการเกษตรและการกระจายสินค้าสินค้าภายในประเทศตามเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย ระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ดูแลอยู่ โดยไม่มีการลงทุนใดๆเพิ่ม จะเป็นพื้นที่รอบด้านให้เกษตรกรได้นำมาเป็นประโยชน์ในการผลิตและขายสินค้าเพื่อการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงมีความน่าเชื่อถืออีกด้วย

ทั้งนี้ องค์การตลาด จะส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าโอทอป ผลผลิตทางการเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ประชาชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรกร สถาบันการเกษตร สหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเปราะบาง ด้วยฐานข้อมูลทางการเกษตร และฐานข้อมูลการตลาดจากความต้องการซื้อชายสินค้าเกษตร

Advertisement

นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร รองประธานกรรมการองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยอต.เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามกลุ่มเป้าหมาย SDGs เพื่อให้ประชาชน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเปราะบาง กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการรายย่อยมีรากฐานการดำรงชีวิตและพัฒนาสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง จึงเป็นที่มาของแนวทางความร่วมมีอร่วมกันระหว่าง 4 หน่วยงาน ในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับ

สินค้าเกษตรและสินค้า OTOP เพื่อเพิ่มศักยภาพในการจำหน่ายสินค้า การกระจายสินค้าเกษตร เพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ โดยระบบดังกล่าว สามารถเชื่อมโยงข้อมูลความต้องการผลผลิตจากโรงเรียน และชัอมูลผลผลิตทางการเกษตร/เกษตรกร พร้อมด้วยระบบ Logstics ในการติดตามสินค้า ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการซื้อชายในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เกษตรกรมีโอกาสจำหน่ายผลผลิตในราคายุติธรรม ช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ สินค้าล้นตลาด และมุ่งพัฒนาตลาดขององค์การตลาดให้เป็น Marketing and Tracing ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรเครือข่าย เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ให้เป็นคนดี คนเก่ง ประกอบอาชีพสุจริต สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

นายวิทยา กล่าวเสริมว่า ในการนี้ อต.ได้ร่วมมือกับ เนคเทค ในโครงการ Thai School lunch หรือ ระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ ที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ สามารถประมาณการค่าใช้จ่ายและวัตถุดิบล่วงหน้า ซึ่งระบบนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบ KidDiary ที่ครอบครัวสามารถเข้าถึงข้อมูลภาวะทางโภชนาการ และพัฒนาการของเด็ก ๆ เชื่อมโยงร่วมกับระบบ Farm to School เพื่อจับคู่ความต้องการสินค้าทางการเกษตรของโรงเรียนกับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ และกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับที่ได้มาตรฐานเพื่อบริหารจัดการผลผลิต สำหรับ Thai School Lunch ซึ่งโรงเรียนสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ แต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้แพล็ตฟอร์มรวบรวมเมนูอาหารเพื่อให้โรงเรียนต่างๆ ใช้ประกอบการจัดทำเมนูอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 มีเมนูอาหารให้เลือกมากกว่า 1,000 เมนู ให้แต่ละโรงเรียนนำไปใช้ในการจัดเตรียมอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ แต่ยังทำให้เด็กๆ ได้สารอาหารที่เพียงพอ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแพล็ตฟอร์มดังกล่าว มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. อปท. และ กทม. ไปจนถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศจำนวนมาก ตัวเลขปี 2565 อยู่ที่จำนวนกว่า 5.7 หมื่นโรงเรียน

ดร.ชัย วุฒิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวถึงความร่วมมือ ในฐานะหน่วยงานที่พร้อมเป็นฐานรากทางด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูงให้กับประเทศ ที่ได้สะสมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูขนาดใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการดูแลโภชนาการและสุขภาพของเด็กและเยาวชน รวมทั้งการทำ Demand supply matching ของโรงเรียนและหน่วยบริการของรัฐ กับผู้ให้บริการเกษตร อาหารและขนส่ง ในความร่วมมือครั้งนี้ เนคเทค สวทช. ได้ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อยกระดับศักยภาพการบริการดิจิทัลของหน่วยงานพันธมิตร ด้วยการต่อยอดนวัตกรรมพร้อมใช้ 3 ผลงาน จากแพลตฟอร์มสำหรับโรงเรียน สู่การพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP รวมถึงการเชื่อมโยงร่วมกับระบบ Farm to School เพื่อจับคู่ความต้องการสินค้าทางการเกษตรของโรงเรียนกับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ และกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับที่ได้มาตรฐานเพื่อบริหารจัดการผลผลิต โดยร่วมขับเคลื่อน 2 กลไก คือ 1) การวิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเพื่อติดตามและส่งเสริมการมีสุขภาพดีของคนไทยด้วยการใช้ข้อมูลและนวัตกรรมการวิเคราะห์ข้อมูล โดย ทีมวิจัยการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ (HBA) กลุ่มวิจัยวิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ (DSARG) และ 2) การพัฒนาให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มสู่การใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะ โดย บริษัท ดาร์วินเทค โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็น NECTEC Start up ล่าสุด ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่อง AI และ Big Data Analytics ในการดูแลสุขภาพของคนไทย

นายพงษ์ศักดิ์ ติยานันทิ กรรมการบริษัท ดาร์วินเทค โซลูซันส์ (ประเทศโทย) กล่าวในฐานะบริษัท Start up ที่นำผลงานวิจัยศักยภาพสูงของเนคเทค มาขยายผลสู่เชิงพาณิชย์สู่การใช้งานจริง พร้อมเป็นพันธมิตรร่วมทำงานกับทั้ง 3 หน่วยงาน ในการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ของความร่วมมือโดยมุ่งพัฒนาใน 2 ส่วน ประกอบด้วย

1) การเชื่อมโยงข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลความต้องการของลูกค้า 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มโรงเรียนที่ต้องการวัตถุดิบเพื่อตอบโจทย์อาหารกลางวันในโรงเรียน, กลุ่มลูกค้าเดิมขององค์การตลาด เช่น กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาล กลุ่มลูกค้าทั่วไป การลงทะเบียนกษตรกร ผู้ประกอบการ และเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ที่เป็นคู่ค้าขององค์การตลาด (อต.) และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.)

2) Platform พร้อมจ่าย ได้แก่ ฝั่งผู้ซื้อ : จะเป็นรูปแบบเว็บไซต์ และ รูปแบบ Mobile Applcation สำหรับสั่งซื้อสินค้า รองรับการเชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้งานบุคคลทั่วไป และลูกค้าหน่วยงาน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ผู้ประกอบการรับจัดอาหาร

ฝั่งผู้ชาย : (คู่ค้าของอต.และผู้จำหน่ายสินค้า OTOP จากกรมการพัฒนาชุมชน) : มีการลงทะเบียนสินค้าที่จะขายใน platform โดยหากเป็นผลผลิตทางการกษตรจะมีการลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพื่อจัดเก็บตำแหน่งที่ตั้งแปลงเกษตรและมาตรฐานการผลิต เพื่อรองรับกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ

ฝั่งผู้บริหารจัดการตลาด: สามารถบริหารจัดการการชาย อาทิ จัดการคู่ค้า จัดการราคา จัดการ stock สินค้า จัดการการจัดส่งสินค้า การชำระเงิน ส่งเสริมการขาย กระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)เป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งหวังพัฒนาให้แพลตฟอร์มสำหรับสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลที่สำคัญของประเทศ ในการยกระดับเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตทางการเภษตร และสินค้าเกษตรของไทย รวมถึงส่งเสริมการพัฒาศักยภาพของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากข้อมูล ผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของการเชื่อมโยงข้อมูลที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงได้อย่างครบวงจร ที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาบริการดิจิทัล ของหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยตอบโจทย์ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image