หมอชนบทชี้ ผลนิด้าโพลล์ ดับฝันหนู ไม่ต้องคิดถึงนายกฯ แค่กลับเป็น รมว.สธ.ก็ทำไม่ได้แล้ว

หมอชนบทชี้ ผลนิด้าโพลล์ ดับฝันหนู ไม่ต้องคิดถึงนายกฯ แค่กลับเป็น รมว.สธ.ก็ทำไม่ได้แล้ว

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เฟซบุ๊กชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ผลนิด้าโพลล์ สามจังหวัดชายแดนใต้ ดับฝันหนู ไม่ต้องคิดถึงนายกฯ แค่กลับเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขก็ทำไม่ได้แล้ว โดยระบุว่า

ผลนิด้าโพลล์ สามจังหวัดชายแดนใต้ ดับฝันหนู ไม่ต้องคิดถึงนายกฯ แค่กลับเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขก็ทำไม่ได้แล้ว

ผลนิด้าโพลล์ในภาคใต้ คงทำให้หัวหน้าพรรคและลูกทีมภูมิใจไทย กุมหัวปวดขมับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนธันวาคม เคยประกาศฝันหวานว่าจะได้สส. 20 ที่นั่งจากโควต้าทั้งหมด 58 ที่นั่งในภาคใต้ แต่ผลโพลล์สามจังหวัดชายแดนใต้กลับมีคนจะเลือกนายอนุทินเป็นนายกฯแค่ 2.91% (เป็นพรรคต่ำอันดับ 9) และมีคนที่จะเลือกสส.เขตพรรคภูมิใจไทยแค่ 3.82% (เป็นพรรคต่ำอันดับ 7)

ADVERTISMENT

เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะ ข่าวการใช้อำนาจบาตรใหญ่ตามใจตนเอง โยกย้ายหมอสุภัทร ในต้นเดือนมกราคม 2566 แค่นั้นยังไม่พอ พอคนอำเภอจะนะ จ.สงขลาเดินทางกว่า 1,000 กิโลเมตรเพื่อไปถามว่าย้ายหมอที่เขารักทำไม ก็เอาตำรวจกันไว้นอกรั้วไม่ให้เข้ากระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่เขาจะมาสอบถามถึงสาเหตุการย้าย และบอกถึงความต้องการของเขา นั่นคือการไม่แยแส คนใต้ ไม่ใส่ใจคนจะนะ คนเขาอ่านข่าว เขาดูออกว่า หัวหน้าพรรคนี้ สนใจชาวบ้านคนใต้ แต่ปาก เวลาหาเสียงเท่านั้น แต่ความเป็นจริงนั้น เบ้ปาก ดูถูกเหยียดหยาม

เมื่อนิด้าโพลล์ สอบถามในวันที่ 10-20 กุมภาพันธ์ 2566 จึงทำให้ผลกลายเป็นแบบนี้ จึงเป็นคำถามสำหรับลูกพรรคภูมิใจไทยว่า “ทำไมหัวหน้าต้องมาทะเลาะ กลั่นแกล้งโยกย้ายประธานชมรมแพทย์ชนบทในช่วงกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มหาเสียงเลือกตั้งแบบนี้”

ADVERTISMENT

เป็นคำถามที่น่าสนใจจริงๆว่า ทำไมรัฐมนตรีสาธารณสุขผู้ยิ่งใหญ่ จึงต้องมาแก้แค้นหมอชนบทตัวเล็กๆในอำเภอจะนะ เช่นนี้ การอ้างว่า ปลัดกระทรวงฯทำเอง ไม่ได้สั่ง หรือสั่งไม่ได้ ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะทุกคนก็เห็นกับตาว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการประจำอันทรงเกียรติ ที่ควรจะต้องเป็นผู้ถ่วงดุลอำนาจกับรัฐมนตรีโดยใช้วิชาการ เพื่อบอกว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรเป็นประโยชน์ต่อประเทศ อะไรไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ กลับยอมสนับสนุนกัญชาทางการพี้ โดยเดินตามไปดมใบกัญชาด้วยกันทุกที่

แทนที่จะแย้งด้วยเหตุผลทางการแพทย์จริงๆ รวมทั้ง เดินตามต้อยๆไปหาเสียงด้วยกันตามโรงพยาบาลต่างๆและพบอสม.ทั่วประเทศขนาดนั้น แค่สั่งให้ไปตอบคำถามในสภาก็ยังได้ ทั้งที่กระทรวงอื่นเขารักศักดิ์ศรีเขาจึงไม่ทำ เรียกได้ว่าสั่งซ้ายหันขวาหัน

ดังนั้นการที่การเมืองสั่งย้ายหมอสุภัทรและต้องแลกกับการที่ผลโพลล์เลือกตั้งลดลงอย่างมาก มันคุ้มกันไหม สำหรับเจ้าตัว คงต้องตอบว่ามันคุ้ม เพราะมันคือความแค้น ชิงชัง ที่หมอเล็กๆคนหนึ่ง กล้ามาวิจารณ์ “นโยบายกัญชาทางการพี้ของฉัน” กล้ามาเปิดโปงการหาผลประโยชน์จากวัคซีน การจัดสรรวัคซีนที่เอื้อบางจังหวัดตามโควตาสส. และไฟแค้นนี้กำลังเผาไหม้ ไม่เพียงทำร้ายหมอสุภัทร แต่ทำร้ายตนเอง และพรรคของตนให้ไหม้ลามไปด้วย

สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้จาก การเข้าไปจับมือ และมอบคำชื่นชมแก่หมอผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะคนใหม่ ในช่วงที่ไปเยี่ยมจังหวัดสงขลา บอกว่าเป็นคนเก่ง คนดีมาก ทั้งที่เป็นแต่แพทย์ประจำ ยังไม่เคยเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลใดๆเลย การกระซิบให้ข้าราชการผู้บริหารกระทรวงส่งคนไปตรวจสอบหมอสุภัทรทันทีหลังย้ายเพื่อหาหลักฐานอะไรก็ได้ว่าทำผิด ทำไม่ดี และกำชับผู้บริหารกระทรวงว่าให้สนับสนุนงบประมาณให้พัฒนารพ.จะนะเต็มที่ เพื่อให้ดีขึ้นในไม่กี่เดือนหลังหมอสุภัทรย้ายไป เพื่อเยาะเย้ยว่า ถ้าเอ็งย้ายไป เห็นไหมโรงพยาบาลดีขึ้นทันที ทั้งที่เดิมไม่เคยแยแส ไม่เคยสนับสนุนงบประมาณ

โดยตึกผู้ป่วยที่เพิ่งสร้างเสร็จ ราคา 80 ล้าน หมอสุภัทรก็ต้องรวบรวมเงินบริจาคเพื่อมาก่อสร้างเอง นี่คือความหมกมุ่นของความเคียดแค้นชิงชัง ที่ต้องแลกมาด้วยการที่สส.เขตของภูมิใจไทยอาจจะได้ต่ำกว่าเดิม ซึ่งเดิมมี 8 คนก็ว่าน้อยแล้ว ถ้าน้อยกว่าเดิม ก็คืออาจจะไม่มี หรือ 1-2 คนก็ได้

พายุที่ถาโถมเข้าใส่พรรคภูมิใจไทย อย่างรุนแรง ทั้งการเปิดโปงทุจริตในกระทรวงคมนาคมที่มีรัฐมนตรีว่าการสังกัดพรรคภูมิใจไทย และการบอกถึงอันตรายของกัญชาที่กำลังแพร่กระจายในเยาวชน จนไปถึงการล็อคเป้ารณรงค์ไม่ให้เลือกภูมิใจไทยโดยคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ รวมถึงการโยกย้ายหมอสุภัทรอย่างไม่เป็นธรรม อาจจะกลายเป็นทอร์นาโดทางการเมืองที่พัดให้โพลล์ของพรรคภูมิใจไทยในภาคต่างๆลดลงอย่างรุนแรงหรือไม่ คงต้องรอติดตามนิด้าโพลล์ของภาคอื่นต่อไป ….แน่นอนว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมของสัตว์ฟันแทะจริงๆ

Cr. ชมรมแพทย์ชนบท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image