รองโจ๊กเผยแผนอุ้มน.ศ.จีน ผู้ต้องหาหญิงแนะนำเพื่อนชายสนิทเหยื่อก่อเหตุบ้านเช่าแทนรร.เลี่ยงวงจรปิด

รองโจ๊กเผยแผนอุ้มน.ศ.จีน เพื่อนชายสนิทลงมือฆ่า หลังพยายามล่วงละเมิดผู้ตายไม่ยอม เผยผู้ต้องหาหญิงแนะนำให้ก่อเหตุบ้านเช่าแทน รร. เลี่ยงวงจรปิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนคดีอุ้มฆ่านักศึกษาชาวจีนทิ้งศพอำพรางคดีในร่องน้ำที่จังหวัดนนทบุรี ว่าเพื่อนชายคนสนิทของผู้ตายเป็นคนลงมือ โดยมีเพื่อนชายชาวจีนอีก 2 คน ร่วมก่อเหตุด้วย ส่วนวิธีการอำพรางศพได้รับคำแนะนำจากหญิงไทยที่ทำงานในร้านคาราโอเกะย่านอินทามระ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหารู้จักหลังไปเที่ยว และขอให้หญิงไทยช่วยตามหาแฟนสาวชาวจีนที่มาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของไทย โดยจ่ายค่าจ้างเป็นเงิน 50,000 บาท ปรากฏว่าหญิงไทยคนดังกล่าวมีเพื่อนเรียนอยู่สถาบันเดียวกัน จึงให้เพื่อนไปช่วยตามหาและขอไอดีไลน์ผู้เสียชีวิต จากนั้นนัดพบกัน โดยผู้ต้องหาพยายามล่วงเกินฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม กลุ่มผู้ต้องหาจึงมาปรึกษาหญิงไทยว่าทำอย่างไรดี จนนำมาสู่การแนะนำให้ฆ่าทิ้ง พร้อมทั้งแนะนำผู้ต้องหาอย่าฆ่าที่โรงแรม เพราะมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก จึงมีการตกลงฆ่าที่บ้านเช่า ก่อนนำศพไปทิ้งอำพรางคดี จากนั้นแกล้งสร้างเรื่องส่งข้อความหาครอบครัวของผู้เสียชีวิตเรียกค่าไถ่จำนวน 2.5 ล้านบาท เพื่อเบี่ยงเบนคดี ทั้งที่ความจริงกลุ่มผู้ต้องหาไม่มีเจตนาจะเรียกค่าไถ่ ส่วนหญิงไทยยังทำหน้าที่พากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปส่งสนามบินเพื่อหลบหนีออกนอกประเทศ โดยได้ค่าจ้างเพิ่มเติมอีก 80,000 บาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 3 คน จะไม่ส่งตัวกลับมารับโทษที่ไทยเนื่องจากการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อวานนี้ทำให้ทราบว่าประเทศจีนมีกฎหมายมาตรา 8 ที่สามารถลงโทษพลเมืองจีนที่กระทำผิดนอกราชอาณาจักรภายในประเทศได้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่ประเทศจีน โดยกำหนดประเด็นสอบสวนชัดเจน อาทิ สาเหตุสังหาร, ไทม์ไลน์เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย, จุดก่อเหตุใช่ที่บ้านเช่าหรือไม่, พฤติการณ์นำศพไปทิ้ง รวมถึงขั้นตอนในการติดตามหาตัวสาวจีนผู้เสียชีวิต จากการสืบสวนอย่างละเอียด เบื้องต้นสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสอบปากคำผู้ต้องหาชาวจีนจะนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหญิงไทย อย่างไรก็ตาม วันนี้บิดาของผู้เสียชีวิตได้เดินทางจากประเทศจีนเพื่อมาดูร่างของบุตรสาว รวมถึงฟังผลการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการส่งร่างกลับประเทศบ้านเกิดอย่างดี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าสำนวนการสอบสวนมีพยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว โดยมีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ต้องหาบนร่างของผู้เสียชีวิต บนรถเช่า และในบ้านพักที่ก่อเหตุ ยืนยันการกระทำความผิด ส่วนเงินค่าจ้างหญิงไทยจำนวน 80,000 บาท และ 50,000 บาท อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามมาเป็นของกลางในคดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image