นายกฯ เผย ทำหนังสือสอบถาม กกต.อนุมัติงบกู้เรือหลวงสุโขทัยได้หรือไม่ ส่วน PM2.5 เป็นปัญหาภูมิภาค

นายกฯ เผย ทำหนังสือสอบถาม กกต.ขออนุมัติงบกู้เรือหลวงสุโขทัยได้หรือไม่ ส่วน PM2.5 เป็นปัญหาในภูมิภาค ขอให้เข้าใจสภาพภูมิอากาศ สั่ง สป.ทุกกระทรวงเกี่ยวข้องรายงานทุกๆ 3 วัน จ่อ ถก คกก. สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 

เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 11 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงงบกลางที่จะใช้ในการกู้เรือหลวงสุโขทัย ได้มีการเสนอเข้า ครม.หรือยังว่า กำลังสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ เพราะมีความจำเป็นเหมือนกัน ในเรื่องของการใช้งบประมาณในเรื่องใหม่ที่ไม่ได้มีอยู่ในงบประมาณเดิม ต้องถาม กกต. ซึ่งความจำเป็นเร่งด่วนมีอยู่ จะต้องเอาขึ้นมาให้เร็วที่สุด เพื่อตรวจสอบหลักฐานและสาเหตุต่างๆ ที่อยู่ตัวเรือด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า เรื่องนี้ได้มีการย้ำเตือนอยู่เสมอ และในวันเดียวกันนี้ก็ได้ย้ำไปว่า เราจะต้องทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ทุกคนลงไปทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีอธิบดี 2 คน ลงไปอยู่ในพื้นที่ขณะนี้ และตัวเลขฝุ่น PM2.5 ขึ้นๆ ลงๆ เป็นไปตามกระแสลมด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องการเผาวัชพืชทั้งในบ้านเราและพื้นที่ของเพื่อนบ้าน โดยเราได้ประสานและหารือมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องในระดับจังหวัดต่างๆ ที่มีเขตต่อเนื่องกับการทำการเกษตรของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้หาโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของ 2 ประเทศ ตอนนี้ PM2.5 สร้างความเดือดร้อนให้ภูมิภาคอาเซียนอย่างมาก เพราะเป็นประเทศที่ทำการเกษตรทั้งสิ้น และ 2-3 ประเทศที่มีชายแดนติดกันกับเรา ซึ่งมีกลุ่มประเทศทางอินโดนิเซียอีกกลุ่มหนึ่ง และอากาศมีการเคลื่อนไปมาอยู่ตลอด เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจในบริบทของสภาพภูมิอากาศด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ชาวจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่จะเข้าชื่อกันเพื่อร้องเรียนรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ร้องมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชน เพราะไฟเกิดขึ้นเองไม่ได้อยู่แล้วในป่า ขึ้นอยู่กับว่ามีการจุดไฟ มีการเผาวัชพืช มีการเข้าไปในป่าเขตอุทยานหรือเขตต่างๆ อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เข้าไปหาของป่าเข้าไปล่าสัตว์ อันนี้เป็นผลกระทบโดยรวม ตนคิดว่าการทำงานในวันนี้เราทำในทุกวิถีทาง แต่ถ้าประชาชนยังไม่พอใจก็เป็นสิทธิของประชาชน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดรัฐบาลหวังในความร่วมมือของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ก็เห็นใจในภาคการเกษตร วันนี้ได้หารือไปยังภาคธุรกิจต่างๆ ที่มีการลงทุนอยู่ที่ต่างประเทศในเรื่องการผลิตอาหารสัตว์ และอื่นๆ เช่น ปลูกอ้อย ปลูกข้าวโพด และช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อในการเพาะปลูกรอบใหม่ ต้องช่วยกันโดยเฉพาะภาคการเกษตรที่จะมีกำหนดเวลาในการเผา เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษมากเกินไป เป็นระยะๆ แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือมากนัก ก็มักจะมาเผารวมกันในช่วงท้ายๆ จึงทำให้ฝุ่นมากขึ้น

Advertisement

ก็ไม่ใช่การเกษตรอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการใช้รถยนต์ด้วย การจุดไฟเผาป่า โรงงานอุตสาหกรรม ตนได้ตรวจสอบหน่วยงานทุกกระทรวงไปแล้ว และสั่งการให้มีการรายงานกลับมาทุก 3 วัน สั่งเพิ่มไปแล้ว ผ่านทางสำนักงานปลัดและจะมีการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาในภาพรวม

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าอาจถูกโยงไปเป็นประเด็นการเมือง นายกฯกล่าวว่า “ผมคิดว่าอยู่ที่วัตถุประสงค์และความมุ่งหมายของแต่ละคน แต่ละพรรคการเมือง ก็ว่ากันไป รัฐบาลพยายามจะทำให้เต็มที่ตามหน้าที่ ตามความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ แต่ข้อสำคัญคือถ้าเราไม่รวมมือกัน มันก็แก้อะไรไม่ได้สักอย่าง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image