ก้าวรุก ก้าวศึก แผนลึก หลี่ซื่อหมิน แผนลวง แยบยล

ก้าวรุก ก้าวศึก แผนลึก หลี่ซื่อหมิน แผนลวง แยบยล

ก้าวรุก ก้าวศึก
แผนลึก หลี่ซื่อหมิน
แผนลวง แยบยล

เดือน 8 ปีที่ 11 ศักราชต้าเย่ (ค.ศ.615) สุยหยางตี้เสด็จประพาสชายแดนภาคเหนือ ถูกกองทัพฮวนทูเจี๋ยหลายสิบหมื่นจู่โจม
41 หัวเมืองในภูมิภาคเอี้ยนเหมินถูกยึดไป 39
สุยหยางตี้ฮ่องเต้ถอยออกมาถึงเอี้ยนเหมิน ทหารและราษฎรในเมืองมีจำนวน 15 หมื่น
มีเสบียงพอกินได้เพียง 20 วัน
ในสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ สุยหยางตี้ทรงปลอบขวัญราษฎรและพระราชทานรางวัลทหารไปพลาง
ขณะเดียวกัน นำราชโองการผูกกับท่อนไม้ไปพลาง
หย่อนลงลำนำเฟินไหลไปตามกระแสน้ำ รับสั่งให้ขุนนางนายทหารในที่ต่างๆ เร่งส่งกำลังมาหนุนช่วย
ภารกิจนี้ย่อมตกถึงมือ หลี่ซื่อหมิน

นั่นเป็นเนื้อความอันปรากฏในหนังสือ “ถังไท่จงฮ่องเต้ : จักรพรรดินักปกครองแห่งราชวงศ์ถังของจีน”
สำนวนเรียบเรียงของ วัชระ ชีวะโกเศรษฐ
ขณะที่เมื่ออ่านหนังสือนิยายภาพ “ตำนานชาติมังกร ถังไท่จู่ฮ่องเต้” ก็รับทราบว่า หลี่ซื่อหมินยามนี้อายุ 18 ปี และได้ร่วมทัพไปด้วย
ได้เสนอแผนการอย่างหาญห้าว
“ขุนพลเหยิน ขุนพลเหยิน ข้ามีเรื่องจะเรียนให้ทราบ ข้าน้อยผู้โง่เขลามีแผนการหนึ่งจะเรียนเสนอ แผนนี้ไม่ต้องเสียทหารสักคนหรือม้าสักตัว
ก็ทำให้ทัพใหญ่ของทูเจี๋ยถอยได้โดยไม่ต้องรบ”
ได้ยินข้อเสนอจากหลี่ซื่อหมินเช่นนั้น แม่ทัพเหยินเติ้งซิ่งซึ่งอ่านกลศึกของท่านซุนวูมาอย่างเจนจบย่อมหูผึ่ง
เนื่องจากมีบทสรุปตามสำนวนแปล อธิคมสวัสดิญาณ เด่นชัด

การทำสงคราม คือ วิถีแห่งกุศโลบาย
มีขีดความสามารถ พึงแสดงว่าไร้ขีดความสามารถ
จะทำสงครามพึงแสดงว่าไม่คิดทำสงคราม จะตีใกล้พึงแสดงว่าจะตีไกล จะตีไกลพึงแสดงว่าจะตีใกล้
ข้าศึกละโมบพึงหลอกล่อด้วยผลประโยน์
ข้าศึกปั่นป่วนพึงตีหักเอา ข้าศึกมีกำลังมากพึงเตรียมพร้อมเสมอ ข้าศึกเข้มแข็งพึงหลีกเลี่ยง
ข้าศึกฮึกหาญพึงบั่นทอนขวัญกำลังใจข้าศึก
ข้าศึกสุขุมเยือกเย็น พึงทำให้ขาดสติ ข้าศึกสุขสบาย พึงรังควานให้อ่อนเปลี้ย ข้าศึกสามัคคีกัน พึงยุแยก
หากชนะก่อนรบแสดงว่าได้วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว
หากไม่ชนะก่อนรบ แสดงว่ามิได้วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบเท่าที่ควร วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบย่อมชนะ ไม่วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบย่อมไม่ชนะ
ไยต้องกล่าวถึงการไม่วางแผนอีกเล่า

ADVERTISMENT

การดำรงอยู่ของหลี่ซื่อหมินเป็นการดำรงอยู่อย่างเด็กอัจฉริยะ ไม่เพียงเป็นบุตรของหลี่หยวนอันมีรากฐานอันแข็งแกร่งในเมืองไท่หยวน
หากแต่ยังมี “ตำนาน” เล่าขาน
เมื่อหลี่ซื่อหมินยังน้อยๆ มีหมอดูทำนายว่า บุตรคนนี้มีบุญ จะเป็นที่พึ่งของราษฎรทั้งแผ่นดิน
ได้ฟังคำทำนายหลี่หยวนก็โกรธ
เพราะถ้าหมอเอาความไปเที่ยวพูดให้อื้ออึงไป ภัยจะมีกับบุตร จึงสั่งการให้ทหารไปฆ่าเสียระหว่างทาง
หมอดูพอออกพ้นประตูเมืองก็หายไป
หลี่หยวนประหลาดใจอย่างยิ่งจึงตั้งชื่อบุตรตามคำทำนายว่า “ซื่อหมิน” แปลได้ว่า “คุมราษฎรได้ทั้งแผ่นดิน”
ที่น่าสนใจจึงอยู่ที่หลี่ซื่อหมินดำเนินกลยุทธ์อย่างไร

กลอุบายอันหลี่ซื่อหมินเสนอต่อขุนพลเหยินเติ้งซิงให้รบโดยปักธงทิวทั่วไปอันเป็นกลลวงข้าศึกมีเหตุผลในทางพิชัยสงครามครบถ้วน
เมื่อข้าศึกบังอาจยกทัพมาล้อมขบวนฮ่องเต้
ข้าศึกจะต้องเชื่อแน่ว่าในความกะทันหันฝ่ายของศูยจะไม่สามารถรวบรวมทหารมาหนุนช่วยได้ทันอย่างแน่นอน
แต่ถ้าหากสร้างภาพว่ามีกำลังกระจายอยู่ทั่วไป
ด้วยการปักธงทิวอันยาวหยียดเป็นระยะทางถึงหลายสิบลี้ในเวลากลางวัน ตกกลางคืนก็ย่ำกลองรบประสานเสียง ข้าศึกก็จะเข้าใจว่ามีกองกำลังทหารส่งเข้ามาช่วยมากมาย
ก็จักทำให้ข้าศึกเกิดความหวั่นเกรง
มิเช่นนั้น ข้าศึกมีกำลังทหารเหนือกว่า โหมโจมตีฝ่ายเราแล้วเราจะต้านทานกำลังของข้าศึกได้อย่างไร
ดังปรากฏในบทที่ 7 ของคัมภีร์ซุนวูว่าด้วย “การสัประยุทธ์”

ADVERTISMENT

หลังจากหยางกว่างปลงพระชนม์พระบิดาและขึ้นครองราชย์เป็นสุยหยางตี้ฮ่องเต้แล้วทรงให้สร้างเมืองตงตู
สร้างอุทยานหลวงซิงหยวน
ขุดคลองเพื่อเสด็จประพาสหาความสำราญจนราษฎรเดือดร้อนกันไปทั่วเกิดจลาจลวุ่นวายทั่วแผ่นดิน
พวกเติร์กทางภาคเหนือได้ฉวยโอกาสรุกรานแผ่นดินศูยอยู่เสมอ
ฮ่องเต้ทำความเห็นชอบของมหาอำมาตย์เผยจี้เพื่อบั่นทอนกำลังพวกเติร์ก โดยหลอกฆ่าสูหูสี หัวหน้าพวกเติร์ก
ทำให้เซอปีข่าน หัวหน้าเติร์กตะวันออกตัดสัมพันธไมตรี
ฮ่องเต้พาเหล่าเสนาอำมาตย์ออกตรวจชายแดนภาคเหนือใน ค.ศ.615 ระหว่างทางมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน
เส้นทางจึงเฉอะแฉะด้วยดินโคลนเดินทางลำบากมาก

เซอปีข่านรู้ข่าวจึงนำทหาร 100,000 คนเข้าจู่โจม ฮ่องเต้ทรงทราบข่าวว่าพวกเติร์กจะมาโจมตี
จึงรับสั่งให้เคลื่อนขบวนเข้าเมืองเอี้ยนเหมิน
ทหารม้าพวกเติร์กรุกเข้าประชิดล้อมเมืองเอี้ยนเหมินไว้อย่างหนาแน่น เซอปีข่านนำทหารบุกเข้าตีอย่างหนัก
ขนาดมีลูกธนูตกไปถึงที่ประทับของฮ่องเต้
ในเมืองเอี้ยนเหมินมีกำลังทหารถึง 150,000 คน แต่มีเสบียงพอกินได้เพียงแค่ 20 วัน
สถานการณ์ตึงเครียดมาก
ทรงจำต้องปลอบขวัญพวกทหารว่า หากสามารถรักษาเมืองไว้ได้จะนะทรงปูนบำเหน็จให้ตามความดีความชอบ
จะเลื่อนตำแหน่งยศศักดิ์ให้ตามลำดับ

ไม่ว่าจะมองในด้านคำทำนายของหมอดู ไม่ว่าจะมองในด้านการมาและการไปอย่างไร้ร่องรอยของหมอดู
เป็นการสร้างสีสัน
ที่สำคัญเป็นอย่างมากกลับเป็น “อุบาย” อันมาจากสมองของทหารหนุ่มวัยเพียง 18
นี่ย่อมเป็นการ “ลวง” อย่างแยบยล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image