“3 พรรคเล็ก” ร้องศาลปกครอง กกต.จัดเลือกตั้งไม่เป็นธรรม ขอการนับคะแนนบัญชีรายชื่อเป็นโมฆะ เชื่อหลักฐานแน่น เตรียมฟ้องคดีอาญาควบคู่
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย นายลิขสิทธิ์ ใสกระจ่าง หัวหน้าพรรคพลัง นายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลัง และตัวแทนพรรคแรงงานสร้างชาติ พร้อมทนายความ เข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ขอไต่สวนฉุกเฉินฟ้องร้องต่อ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), กรรมการการเลือกตั้ง, เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง, สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกระทรวงการคลัง เพื่อให้ผลการนับคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต.เป็นโมฆะ และขอให้ศาลระงับการประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต.อย่างเป็นทางการ และขอให้ศาลมีการคุ้มครองการประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต.
โดยนายคฑาเทพกล่าวว่า หลักฐานที่มีมัด กกต.ดิ้นไม่หลุด ทั้งพยานหลักฐานและพยานบุคคล ทั้งนี้ ไม่ได้ติดใจสูตรคำนวณ ส.ส.แต่การได้มาซึ่งคะแนนนั้น มีวิธีการขยับคะแนน ซึ่งผลออกมาไม่ตรงกันทั้งหมด ดังนั้นจึงเชื่อว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้การนับคะแนนบัญชีรายชื่อต้องตกเป็นโมฆะ ส่วนที่ กกต.จะมีการนับคะแนนใหม่ ก็ถือเป็นอำนาจ แต่วิธีการที่จะนับใหม่นั้นทำถูกหรือไม่ การที่บอกว่า 3 พรรคของเราไม่มีสิทธิได้ ส.ส.เพราะคะแนนไม่ถึงนั้นคือคำสั่งปกครอง และวันนี้ กกต.บอกว่ามีบัตรเขย่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ กกต.มีทางเดียวคือต้องมาชี้แจงที่ศาล และหลังจากนี้จะมีการดำเนินคดีทางอาญาควบคู่กันไปด้วย และจะนำคำวินิจฉัยของศาลปกครองในครั้งนี้ไปประกอบกับการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าการไปยื่นร้องในวันนี้จะได้รับกรุณาจากศาล ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ในวิธีการที่ กกต.กระทำผิดพลาด เช่น ผู้มีสิทธิและผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกัน บัตรดีบัตรเสียมีความต่างกัน ซึ่งตนมีพยานเอกสารและพยานบุคคลชัดเจน
ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวเพิ่มเติมว่า พยานบุคคลที่มี เป็นคนที่สามารถยืนยันในการกระทำความผิดได้ การเรียกร้องตรงนี้เป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมไม่ใช่ขี้แพ้ชวนตี แต่มีพยานหลักฐานเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการปิดระบบนับคะแนนวันที่ 15-25 พฤษภาคม จาก 95% ขึ้นเป็น 100% โดยประชาชนไม่ได้เห็นความเคลื่อนไหว ดังนั้น เพื่อให้คะแนนของประชาชนที่เลือกเรามาไม่ตกน้ำ และมั่นใจว่าพรรคทั้ง 3 พรรค ได้ที่นั่ง ส.ส. 1 ที่นั่งทุกพรรค
ทั้งนี้ กระบวนการศาลปกครองเป็นกระบวนการเริ่มต้น ส่วนคดีอาญากำลังศึกษาข้อกฎหมาย และดูรายละเอียดใช้แน่ชัดก่อนที่จะยื่นฟ้องศาล กกต.ทั้ง 7 คนในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ พร้อมทั้งส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีอีกทางหนึ่งด้วย