‘บิ๊กเล็ก’ ตรวจเยี่ยม กอ.รมน.ภาค4สน. ติดตามโครงการก่อสร้างพนังเขื่อนป้องกันตลิ่ง และรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมพร้อมรองรับภัยความมั่นคงทุกมิติ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พล.อ.ปิยพงษ์ กลิ่นพันธุ์ จเร กอ.รมน. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญตามนโยบาย และร่วมหารือถึงปัญหาด้านความมั่นคงในพื้นที่ จาก กอ.รมน.ภาค 4 สน., ฉก.อโณทัย, บก.ควบคุมสุริโยทัย และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ได้ตรวจเยี่ยมคลัง ศกบ.อโณทัย รับฟังสรุปผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมาในการสนับสนุนภารกิจด้านยุทธการ และด้านส่งกำลังบำรุง พร้อมหารือปัญหาข้อขัดข้อง ในการนี้ พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ เลขาธิการ กอ.รมน. ร่วมรับฟังการบรรยายการประชุมผ่านระบบออนไลน์ โดยได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้หน่วยนำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยัง บ.กัวลอต๊ะ ต.นานาคอ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการเพิ่มพูนประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโก-ลก ระยะทาง 7.528 กม. เนื่องจากประเทศมาเลเซียก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำแล้วเสร็จ ส่งผลให้ริมตลิ่งฝั่งไทยถูกน้ำกัดเซาะ พื้นที่บางส่วนมีการพังทลาย เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างผนังเขื่อนป้องกันตลิ่งโดยแบ่งการก่อสร้างพนังเขื่อนออกเป็น 12 ช่วง ใน 3 ตำบล คือ ต.เกาะสะท้อน ต.โฆษิต และ ต.นานาค โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ เม.ย.66 มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าการก่อสร้างพนังเขื่อนไปแล้วร้อยละ 14.8
นอกจากนั้นได้ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ ระยะทางยาว 6 กิโลเมตร จะมีการติดตั้งระบบ CCTV จำนวน 357 ตัว ในพื้นที่ 4 ชุมชนริมตลิ่งแม่น้ำโก-ลก และบริเวณท่าข้ามผ่อนปรนพื้นที่ อ.ตากใบ คือ ต.เจ๊ะเห, ต.เกาะสะท้อน, ต.ปะลุกา และ ต.กัวลอต๊ะ โดยกล้อง CCTV มีประสิทธิภาพในการจับใบหน้าการซูม จับภาพมองคงที และการหมุนไปมา เป็นเครื่องมือในการช่วยเฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองฟากฝั่ง โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ มี.ค.66 จะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.66 ปัจจุบันโครงการมีความก้าวหน้าไปกว่าร้อยละ 85
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน ตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย สร้างขึ้นเพื่อป้องกัน สกัดกั้น ยับยั้งการลักลอบขนย้าย อาวุธ ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว สิ่งผิดกฎหมายต่างๆ และการคัดกรองบุคคล หรือภัยคุกคามใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงเป็นการพัฒนาระบบบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้มั่นคงปลอดภัย สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบริเวณชายแดน ตลอดจนเป็นรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ กอ.รมน. จะยึดมั่นในนโยบายของรัฐ ยุทธศาสตร์ความมั่นคง และนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการควบคุมเฝ้าระวัง การบังคับใช้กฎหมาย และการเดินหน้าสร้างความเข้าใจแก่ชุมชนและสังคม ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ยึดมั่นศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อให้พื้นที่ชายแดนภาคใต้เข้าสู่สังคมสันติสุขอย่างแท้จริง
