อียิปต์เปิดด่านราฟาห์วันนี้ ‘กุแตเรซ’ วอนหยุดยิง ชาวปาเลสไตน์เกินครึ่งพลัดถิ่นในกาซา
นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสตกลงหยุดยิงตามหลักมนุษยธรรม เพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้รับอนุญาตในการเข้าถึงเชื้อเพลิง อาหาร น้ำ และยารักษาโรค หลังจากที่ฉนวนกาซาถูกปิดล้อมมานานกว่า 10 วันนับตั้งแต่เกิดการโจมตีขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
“พลเรือนในฉนวนกาซาต้องการการเข้าถึงบริการและสิ่งของหลักที่จำเป็นต่างๆ ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีช่องทางให้พวกเขาเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างรวดเร็วและในทันที ตอนนี้เราต้องการน้ำ อาหาร และยารักษาโรคเป็นจำนวนมาก และเราต้องการให้การมอบความช่วยเหลือนี้เป็นไปอย่างยั่งยืน” กุแตเรซกล่าว
ผู้นำสหประชาชาติพูดถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายซาเมห์ ชูครี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ในกรุงไคโร ซึ่งกุแตเรซกำลังดูแลเกี่ยวกับการเตรียมการเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซาผ่านด่านข้ามแดนราฟาห์ของอียิปต์ ที่ทางการอียิปต์ระบุว่า จะสามารถเปิดให้ส่งมอบความช่วยเหลือเข้าไปยังฝั่งปาเลสไตน์ได้ในวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคมนี้
โครงการอาหารโลกซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สหประชาชาติระบุว่า ขณะนี้มีรถบรรทุกของหน่วยงานให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจอดรออยู่ที่ด้านนอกประตูชายแดนระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซาในเมืองราฟาห์ของอียิปต์ พร้อมกับอาหารมากกว่า 1,000 ตัน
อย่างไรก็ดีจำเป็นต้องใช้รถบรรทุกมากถึง 60 คันเพื่อขนส่งอาหารเหล่านั้น ซึ่งจะเพียงพอสำหรับที่จะเลี้ยงคนได้ไม่ถึงครึ่งล้านคนเป็นเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ และเมื่อรถบรรทุกผ่านชายแดนแล้วพวกเขาก็พร้อมจะขนส่งไปยังที่พักพิงรวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่ต้องการอาหาร
ผู้แทนโครงการอาหารโลกย้ำว่าเมื่อรถบรรทุกอาหารเข้าไปในฉนวนกาซาแล้ว องค์กรด้านมนุษยธรรมจะต้องได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขณะนี้พวกเขากำลังรอเวลาที่รถบรรทุก 20 คันแรกจะได้ข้ามพรมแดนเข้าไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่าตัวเลขของชาวปาเลสไตน์ที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในดินแดนฉนวนกาซาในปัจจุบันมีมากกว่า 1 ล้านคนแล้ว หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนพลเมืองปาเลสไตน์ทั้งหมด 2.3 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาในปัจจุบัน
สหประชาชาติระบุว่า ชาวกาซานกว่าครึ่งหนึ่งได้กลายเป็นคนไร้บ้านที่ยังติดอยู่ภายในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก
สื่อต่างชาติมองว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประสบความสำเร็จอย่างจำกัดในความพยายามที่จะให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ที่สามารถทำข้อตกลงกับอิสราเอลและอียิปต์ให้มีการขนส่งความช่วยเหลือไปกับรถบรรทุกผ่านด่านราฟาห์ได้เพียง 20 คันเท่านั้น ขณะที่ผู้แทนหน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติระบุว่า จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องโดยรถบรรทุกมากกว่า 100 คันต่อวันจึงจะเพียงพอรับมือกับวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาได้
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า นายเดวิด แซตเทอร์ฟิลด์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลประเด็นด้านมนุษยธรรมในตะวันออกกลาง กำลังพบปะกับเจ้าหน้าที่อิสราเอลและอียิปต์ เพื่อเจรจาต่อรองเกี่ยวกับรูปแบบที่แน่นอนของข้อตกลงในการส่งมอบความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา
ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาบางคนบอกว่า พวกเขาไม่ได้ต้องการอะไรจากอาหรับรวมถึงต่างชาติ นอกจากการยุติการโจมตีใส่บ้านเรือนของพวกเขาเท่านั้น
