ผญบ.หญิงสุดทน ผัวซ้อมนาน 20 ปี ซ้ำถูกเตะกลางวงประชุม เผยเคยถูกซ้อมจนไส้ติ่งแตก แม่ยายแฉซ้ำ ถูกล็อกคอจะเอามีดแทง
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใหญ่บ้านหญิงในพื้นที่แห่งหนึ่ง จ.นนทบุรี ร้องเรียน ปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังต้องทนทุกข์กับสามี สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) มาร่วม 20 ปี ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด เคยขู่จะใช้ปืนยิงตนและแม่ โดยขอแยกทางและต้องการดำเนินคดีกับสามีให้ถึงที่สุด
โดยปวีณาพาผู้ใหญ่บ้านหญิงรายนี้ พร้อมกับแม่ นำหลักฐานคลิปแชตเดินทางไปที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ไปแจ้งความกับ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ในสวนของแม่ ประชุมร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผ่านระบบซูม โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน แล้วมีสารวัตรกำนันชายคนหนึ่งมานั่งประชุมด้วย เพราะใช้ระบบซูมไม่เป็น ตนจึงเข้าไปสอนการใช้ระบบซูม และแม่ของตนก็อยู่แถวนั้นด้วย
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวว่า จู่ๆ สามีเดินผ่านมาเห็นเกิดอาการหึงหวงปรี่เข้ามาเตะสารวัตรกำนัน แม่ของตนซึ่งอายุ 72 ปี เห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาช่วยห้าม สามีกลับตรงเข้าล็อกคอแม่และคว้ามีดจะจ้วงแทง ตนจึงรีบเข้าไปช่วยพร้อมกับร้องขอชีวิตกับสามีว่า “อย่าทำแม่” สามีจึงหยุด ตนจึงรีบพาแม่หนีไปอยู่บ้านน้องชายที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวต่อว่า ตนอยู่กินกับสามีซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) บุคคลนี้ มากว่า 20 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาวคนโตอายุ 24 ปี ลูกชายคนเล็กอายุ 14 ปี ในระหว่างที่อยู่กินด้วยกัน สามีมักมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาตลอดจนทำให้มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และตนเคยถูกสามีทำร้ายจนไส้ติ่งแตกมาแล้ว ซึ่งตนก็ไม่กล้าแจ้งความและต้องทนถูกสามีทำร้ายมาโดยตลอด เพราะสามีข่มขู่ไว้ว่าถ้าแจ้งความจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อนอยู่ไม่เป็นสุข
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสามีทำกับตนก็พอทนได้ แต่ครั้งนี้สามีถึงกับจะใช้มีดแทงแม่ ตนก็สุดจะทนแล้ว ต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ฐานพยายามฆ่าแม่ และทำร้ายร่างกาย และต้องการแยกทางกับสามี ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป แต่เนื่องจากสามีรู้จักผู้กว้างขวางหลายคนตนกับแม่จึงเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวต่อว่า ซึ่งตนได้ถูกทำร้ายร่างกายมาตลอด และมีการขู่ว่าจะไปยิงแม่ ซึ่งตนรับไม่ได้ที่เขามาทำร้ายแม่ และมีการข่มขู่ตลอดทำให้ตนเดือดร้อนและโดนทำร้ายโดยต่อยหน้าตบหน้า ตอนนี้ทำให้ทนไม่ไหวแล้วและรู้สึกกลัว และอยากเลิกเพราะสงสารลูกและกลัวลูกโดนทำร้ายและเป็นห่วงจิตใจของลูกด้วย
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุมีสารวัตรกำนันอยู่ด้วยแต่ห้ามไม่ทัน ซึ่งสาเหตุที่สามีหึงหวงเพราะตนไปจับได้ว่าสามีมีชู้ ทำให้ตนโดนทำร้ายร่างกายตลอด และข่มขู่ไม่ให้ตนเลิก ตนพยายามจะหาทางเลิกกับสามีแล้วแต่โดนทำร้ายตลอด ซึ่งทางสามีได้มีอาวุธปืนและพกปืนตลอดเวลา ซึ่งที่เขาหึงสารวัตรกำนัน ตนไม่อยากให้เขาเข้ามาข้องเกี่ยว
ผู้ใหญ่บ้านหญิงกล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่โดนทำร้ายร่างกายตนจะถูกต่อยและโดนไม้ฟาด ทุกครั้งที่โดนทำร้ายจะมีเลือดออกทุกครั้ง มีครั้งที่หนักสุดคือโดนเตะจนไส้ติ่งแตก ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปแจ้งความไว้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัว ตอนนี้ตนนอนไม่หลับและระแวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกับสามีแล้ว ซึ่งคนในหมู่บ้านจะรู้กันหมดว่าตนโดนทำร้ายมาตลอดแต่ก็ไม่มีใครยุ่ง ซึ่งตนได้แจ้งทางเทศบาลต้นสังกัดไปแล้วแต่ก็บอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัว
แม่ของผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า ตนเข้าไปห้ามตอนเกิดเหตุ แต่กลับจะถูกแทง วันนี้จึงขอให้ ส.ท.คนนี้ ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับทางครอบครัวเพราะเป็นห่วงหลานและเด็กๆ ในบ้าน ซึ่งตนไม่เคยถูกทำร้ายมาก่อนหน้านี้แต่เพิ่งมาโดนล็อกคอเมื่อวาน ตอนนี้ตนรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
ปวีณากล่าวว่า มาร้องเรียนกับตนว่าถูกทำร้ายร่างกายโดยเมื่อวานนี้ที่มีการนั่งประชุมกันดังกล่าว จู่ๆ สามีได้เข้ามาทำร้ายคนที่มาร่วมประชุมด้วยและคุณแม่ของผู้เสียหาย โดยเอามีดมาแทง ซึ่งทางผู้เสียหายอยู่กินกับ ส.ท.มานานกว่า 20 ปี ทางด้านสามีได้ไม่พอใจและเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่แม่ของผู้เสียหายเข้ามาช่วยแต่ก็โดนล็อกคอ จึงพากันกลับบ้าน แต่ถูกข่มขู่ว่าจะยิง ตนจึงพาผู้เสียหายและแม่เข้ามาแจ้งความทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ตอนนี้ผู้เสียหายกลัวมากเพราะสามีเป็นนักการเมืองท้องถิ่น
ปวีณากล่าวว่า ตนจึงประสานทางด้าน พมจ.ด้วยเพราะมีเรื่องของความรุนแรง ทางมูลนิธิได้รับเรื่องร้องทุกข์มานานแล้ว ปัญหาของการทำร้ายร่างกายคืออันดับ 1 เป็นเรื่องที่ร้ายแรงสำหรับครอบครัว ซึ่งวันนี้การที่มานั่งคุยกัน คุณแม่ของผู้เสียหายยังไม่ทราบว่าลูกถูกทำร้ายร่างกายมานานกว่า 20 ปี เพราะโดนข่มขู่ไว้ว่าจะทำร้ายครอบครัว นี่คือสิ่งที่ตัวผู้เสียหายได้รับความกดดัน ซึ่งทางผู้เสียหายเข้าไปร้องทุกข์มาหลายหน่วยงานแล้วแต่ก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรม ตนจะส่งเรื่องไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดูแลพยานและให้ทางเจ้าหน้าที่ประสานงาน จะไม่ให้ผู้กระทำความผิดเข้ามาอยู่ใกล้กับผู้เสียหาย ตอนนี้ทางผู้เสียหายและแม่จะอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิปวีณา
เบื้องต้นทาง พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้เรียบร้อยแล้ว จะเร่งดำเนินการทำตามขั้นตอนตามกฎหมายถ้ากระทำความผิดจริงจะออกหมายเรียกตามกฎหมายต่อไป เท่าที่ฟังและดูหลักฐานทั้งหมดยังตรวจสอบไม่เรียบร้อย แต่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะดูพฤติกรรมการแทง ว่าถึงขั้นพยายามฆ่าหรือไม่ หรือเป็นการข่มขู่อย่างเดียว และจะต้องสอบปากคำ ตนจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจของพื้นที่ของ สภ.บางบัวทองให้เข้ามารับแจ้งความในวันนี้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกตรวจและมีเบอร์โทรประสานกันกับผู้เสียหายตลอดเวลา จะต้องตรวจสอบเรื่องของอาวุธปืนด้วยต่อไป
